
เพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า ดาวอังคารจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งใกล้โลกที่สุดในวันที่ 1 ธ.ค.65 ห่างจากโลกประมาณ 81.5 ล้านกิโลเมตร จากนั้นจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ ในวันที่ 8 ธ.ค.65 ซึ่งดวงอาทิตย์ โลก และดาวอังคารจะเรียงตัวอยู่ในเส้นเดียวกัน)
หลังจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดาวอังคารจะปรากฏสว่างมากทางทิศตะวันออก มีสีส้มแดง และสว่างเด่นชัดอยู่บนท้องฟ้าตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า หากชมผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาด 10 นิ้ว กำลังขยายตั้งแต่ 100 เท่าขึ้นไป จะสามารถมองเห็นรายละเอียดของพื้นผิว รวมทั้งขั้วน้ำแข็งบนดาวอังคารได้อย่างชัดเจน
ดังนั้น ตลอดเดือนธันวาคมจึงเป็นช่วงที่เหมาะแก่การสังเกตการณ์ดาวอังคารเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากวงโคจรของดาวอังคารค่อนข้างรี และอยู่ใกล้โลกมาก เมื่อเทียบกับดาวเคราะห์วงนอกดวงอื่น ๆ เป็นผลให้วันที่ดาวอังคารอยู่ตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ จะไม่ใช่วันที่ดาวอังคารเข้าใกล้โลกมากที่สุด ต่างจากดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดี
ทั้งนี้ ดาวอังคารจะเข้าใกล้โลกในทุก ๆ 2 ปี 2 เดือน และจะเข้าใกล้โลกมากที่สุดทุก ๆ 15 - 17 ปี
สำหรับวันที่ 1 ธ.ค.65 ซึ่งดาวอังคารใกล้โลกที่สุด NARIT จัดกิจกรรมสังเกตการณ์ “ดาวอังคารใกล้โลก” เวลา 18:00-22:00 น. ฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย ใน 4 แห่ง ได้แก่
- อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่
- หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา
- หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา
- หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา
นอกจากผู้ที่สนใจสามารถรับชมการถ่ายทอดสดปรากฏการณ์ดาวอังคารใกล้โลกได้ที่
สำหรับภาพดาวอังคารที่เห็นนี้ NARIT ถ่ายเมื่อวันที่ 27 พ.ย.65 ซึ่งบันทึกผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาดหน้ากล้อง 0.4 เมตร ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา โดยมองเห็นพืดน้ำแข็งปกคลุมบริเวณขั้วเหนือ รวมถึงเมฆสีขาวปกคลุมบริเวณทิศตะวันออก (ซ้าย) ของดาวอังคารอย่างชัดเจน และช่วงนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นรายละเอียดพื้นผิวโดยเฉพาะภูเขาไฟโอลิมปัส ภูเขาไฟที่มีความสูงกว่า 22 กิโลเมตร (กลางภาพ) ได้อย่างชัดเจน