7 วันอันตรายช่วงสงกรานต์ เกิดอุบัติเหตุ 2,365 ครั้ง พบ 5 จังหวัดไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเลย

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ขอบคุณตำรวจทุกนาย ทำงานเหน็ดเหนื่อย ช่วงสงกรานต์ พร้อมกำชับการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19

(17 เม.ย.64) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เรียกประชุมตำรวจทั่วประเทศ กำชับการปฏิบัติหลังจากที่มีการประกาศข้อกำหนด ฉบับที่ 20 เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 นี้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้สั่งการให้ตำรวจออกกวดขัน ตรวจตราให้เป็นไปตาม ข้อกำหนดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยให้ประชาสัมพันธ์ตักเตือนก่อน เน้นใช้สายตรวจออกลาดตระเวนเป็นหลักแทนการตั้งจุดตรวจ และสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ อาบอบนวด ร้านอาหารที่จำหน่ายสุรา ห้ามการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนเกินกว่า 50 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาติ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 24.00 น. คืนนี้ ( 17 เม.ย.64) เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ยังได้กำชับผู้บังคับบัญชา ต้องหมั่นควบคุม กำกับ และดูแลลูกน้อง ในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค ตามสถานีตำรวจ และหน่วยบริการประชาชนต้องมีอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอลล์ การเว้นระยะห่าง เป็นต้น อย่าให้มีประเด็นที่ทำให้ประชาชนเกิดความไม่สบายใจ

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่ออีกว่า การอำนวยความสะดวกการจราจรตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 นั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ฝากขอบคุณ ข้าราชการตำรวจทุกนาย ที่ทำงานกันเหน็ดเหนื่อยทุกวันในการอำนวยการจราจร การป้องกันอุบัติเหตุ และการปฏิบัติการป้องกันและระงับยับยั้งการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลของการใช้มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุใน 7 วันอันตรายตั้งแต่วันที่ 10-16 เม.ย.64 พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 2,365 ครั้ง ลดลงจากเทศกาลสงกรานต์เมื่อปี 2562 ร้อยละ 29.15 ผู้บาดเจ็บ 2,357 คน ลดลงจากเทศกาลสงกรานต์เมื่อปี 2562 ร้อยละ 31.52 ผู้เสียชีวิต 277 ราย ลดลงจากเทศกาลสงกรานต์เมื่อปี 2562 ร้อยละ 28.24

สำหรับจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเลย มี 5 จังหวัด สิงห์บุรี , สระแก้ว ,ลำปาง ,แม่ฮ่องสอน และ พังงา

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ นครศรีธรรมราช 106 ครั้ง

จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ ปทุมธานี 10 ราย

จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 109 คน

ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติสูงสุด ได้แก่ การขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และ ตัดหน้ากระชั้นชิด ตามลำดับ

(ข้อมูลจาก ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติทางถนน)