ชูวิทย์ – สกาย เล่าดราม่า ดาราไต้หวันอ้างตำรวจไทยรีดเงิน

ชูวิทย์ และ สกาย ชายสิงคโปร อ้างเป็นคนนับเงินให้ตำรวจ เล่าคืนเกิดเหตุ ปม ดาราไต้หวันอ้างตำรวจไทยรีดเงิน

จากกรณี ดาราสาวไต้หวันอ้างโดนตำรวจรีดเงิน 27,000 บาท จนเป็นข่าวดัง เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ทั้ง ผบ.ตร. และ ผบช.น. สั่งสอบตำรวจที่ถูกกล่าวหา หาหลักฐานมาเชื่อมโยงสู่ความจริงที่เกิด

ก่อนจะมีคำสั่งเด้ง นายตำรวจ 7 นาย พร้อมกับ ผบ.ตร. ได้ออกมาเผยคำสั่ง ผกก.สน.ห้วยขวาง ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.หนองจอก แทน

ล่าสุดวันนี้ (1 ก.พ. 66) พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เผย จะสอบปากคำ สกาย เพิ่มเติม พร้อมทั้งกันตัวไว้เป็นพยาน ไม่แจ้งข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน

ผบก.น.1 กันชายสิงคโปร์ไว้เป็นพยาน ปม ดาราสาวไต้หวันแฉ ตร.รีดไถเงิน

ต่อมาในเวลา 14.00 น. ของวันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมกับ สกาย ชาวสิงคโปร์ 1 ในกลุ่มของ ดาราไต้หวันที่ได้อ้างว่า ถูกตำรวจไทยรีดเงิน เข้าให้สัมภาษณ์สื่อ

โดยสกายเล่าว่า ตนเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 65 และเมื่อวันเกิดเหตุ ตนเดินทางไปงานวันเกิดเพื่อน และดื่มแอลกอฮอล์ไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขอยืนยันว่า ไม่ได้เมาตามที่คนขับแกร็บอ้างแต่อย่างใด

จากนั้น สกาย สาวไต้หวัน และเพื่อนชายอีก 2 คน ก็เรียกแกร็บเพื่อกลับที่พัก แต่ก็มาเจอด่านตำรวจเสียก่อน

ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สกายเล่าว่า ที่ด่านมีตำรวจราว 10 นาย มีตำรวจนายที่1 เดินมาที่รถใช้ไฟส่องและเรียกพวกเขาลงมาตรวจค้น จับตามร่างกาย ให้พวกตนถอดรองเท้า และขอดูพาสปอร์ต

ซึ่งวันนั้น มี 3 คนไม่ได้เอาพาสปอร์ตไป ต่อมาตำรวจถามหาวีซ่า ซึ่งสกาย ชายชาวสิงคโปร์ที่พูดไทยได้เลยแย้งว่า เขาเดินทางเข้ามาเที่ยวไม่เกิน 30 วัน ไม่ต้องใช้วีซ่า ตำรวจจึงหันไปพูดถึงเรื่อง บุหรี่ไฟฟ้าแทน

โดยพวกเขา 4 คน มีบุหรี่ไฟฟ้าในครอบครอง 3 อัน สกายอ้างตำรวจบอกเขาว่า มันผิดกฎหมาย สกายแย้งกลับ ทำไมถึงผิดกฎหมายในเมื่อมันวางขายที่ตลาดไทย และเขาก็ซื้อจากตลาดแห่งหนึ่งในไทยเช่นกัน

ถึงจุดนี้ สกายอ้างว่า มีตำรวจอีก 2 นายเข้ามาช่วยพูดเสริมคำของนายตำรวจคนที่1 หลังเถียงกันสักพัก สกายอ้าง รู้สึกว่าตำรวจกำลังขู่ โดยถามว่าพวกเขารู้อะไรเกี่ยวกับกฎหมายไทยบ้าง แต่ตำรวจรู้เพราะเขาเรียนกฎหมาย ซึ่งหากเคลียร์กันไม่จบให้ไปโรงพัก ซึ่งอาจต้องอยู่ถึง 2 วัน

สกายรู้สึกเรื่องกำลังใหญ่โต และเพื่อนที่มาด้ววกันไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว ประกอบกับเขาไม่รู้กฎหมายไทย ว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นผิดกฎหมาย จึงถามตำรวจว่าให้โอกาสพวกเขาได้มั้ย ตำรวจบอกไม่ได้ และเรียกเงิน 8,000 บาท ต่อบุหรี่ไฟฟ้า 1 อัน เรียก 1,000 บาท ต่อ พาสปอร์ต 1 เล่ม รวมเป็นเงิน 27,000 บาท ตามข่าวที่ดาราไต้หวันอ้าง

โดยสกายอ้างต่อ เมื่อตำรวจไทยรับเงินจึงเรียกแท็กซี่ให้พวกเขาขึ้นกลับออกไป

หลังเป็นข่าวใหญ่ สกายบอกว่าได้คุยกับสาวไต้หวันบ้าง ส่วนตัวแล้วไม่ติดใจที่จะเอาเงินคืน เพราะให้ไปแล้วและเขาหาเงินเหล่านั้นกลับมาใหม่ได้ แต่รู้สึกไมาดี และไม่เข้าใจ ทำไมตำรวจไทยถึงทำแบบนี้กับพวกเขา

เพราะที่สิงคโปร์ ทำผิดก็ลงโทษไปตามเหตุผล หากประชาชนให้เงินตำรวจถือเป็นเรื่องใหญ่มาก!

สื่อถามว่า ทำไมถึงกล้าออกมาพูด สกายตอบว่า เพราะมีนายชูวิทย์ และเขาพูดความจริง จึงกล้าให้สัมภาษณ์สื่อ และเขาจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีก เพราะเขารักเมืองไทย และเชื่อว่าตำรวจดีๆ ยังมีอีกเยอะ คงไม่ซวยเจอเหตุการณ์แบบนี้ทุกครั้ง

หลังสกายให้สัมภาษณ์จบ ยกมือไหว้ขอโทษพร้อมพูดว่า ขอโทษอย่างสูงกับการกระทำของตำรวจ ก่อนจะถามสกายและกลุ่มเพื่อนๆ ว่าให้อภัยมั้ย

สกายยกมือไหว้ตอบ และบอกกลับว่า “มันผ่านไปแล้ว พวกเขาให้อภัย”

หลังจากนั้น สกายได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมี พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมในการสอบปากคำครั้งนี้ด้วย

เบื้องต้น สกายอ้าง จำหน้าตำรวจในคืนเกิดเหตุได้ทุกนาย ซึ่งหลังให้ปากคำวันนี้ จะให้สกายชี้ตัวตำรวจในคืนนั้นด้วย จะเป็นใครบ้าง ติดตามได้ที่อีจัน

คลิปอีจันแนะนำ
อีจันสรุปข่าว (1 ก.พ. 66) สกาย หนุ่ม สิงคโปร์ เล่าวินาทีโดนรีดเงิน!