งงตึบ! ญาติเสียตั้งแต่ปี 47 หนังสือท้วงหนี้ลงชื่อกู้ปี 49

อยู่ดีๆ ก็เป็นหนี้หลักล้าน งงตึบ ญาติตายไปตั้งแต่ปี 47 ชื่อกู้เงินเพิ่งลงทำสัญญาปี 49
งงตึบ! ญาติเสียตั้งแต่ปี 47 หนังสือท้วงหนี้ลงชื่อกู้ปี 49

กรรมการอึ้ง  

ตายปี 47 ชื่อกู้เพิ่งลงปี 49  

เดือดร้อนทั้งคนเป็นคนตาย เมื่ออยู่ดีๆ มีหนังสือทวงหนี้ 

 งงจริงอะไรจริง คนชรา  ผู้พิการ และชาวบ้านหลายรายใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  แทบช็อก หลังได้รับหนังทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตรหลักหมื่นถึงหลักล้านทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกและไม่เคยกู้ บางคนตายตั้งแต่ปี 47 แต่กลับมีชื่อกู้เงินปี 49 งงตึบ ไปตามๆกัน 

วันนี้(23ส.ค.66)คนชราผู้พิการและชาวบ้านบ้านหนองงูเหลือม   ต.นางรอง อ.นางรองจ.บุรีรัมย์ หลายคน ที่ได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตร มีตั้งแต่ยอดหลักหมื่นถึงหลักล้านบาท ได้นำหนังสือทวงหนี้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบ   เพราะยืนยันว่าไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตร  และไม่เคยกู้เงินใดๆ จากสหกรณ์เลย

แต่ทำไมถึงมีหนังสือมาทวงหนี้ทำให้ผู้สูงอายุ   ผู้พิการ  และชาวบ้านที่ได้รับหนังสือเกิดความกังวลใจบางคนแทบช็อก เพราะมียอดเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยหลักล้านบาท   บางคนเป็นทั้งคนค้ำและคนกู้ด้วย และที่สร้างความแปลกใจหนักไปกว่านั้น  คือมีชื่อของชาวบ้านบางคนที่เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2547  แต่กลับมีชื่อกู้เงินเมื่อปี 2549   จึงอยากให้มีการตรวจสอบและช่วยเหลือด้วย   เพราะในหนังสือทวงหนี้ระบุว่าหากไม่ชำระตามกำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย  

สอบถาม น.ส.ศรีสุวรรณ อายุ 44 ปี  ผู้พิการแขนและขาตั้งแต่กำเนิด บอกกับทางทีมข่าวว่า ตนได้รับหนังสือทวงหนี้้จากสหกรณ์การเกษตรแห่งหนึ่งในอำเภอนางรอง จำนวน 2 ฉบับ โดยในหนังสือสัญญาแจ้งยอดเงินที่กู้ฉบับแรกปี 2549 เงินต้น 390,000 บาท รวมดอกเบี้ยด้วยเป็นเงิน 772,272  บาท  

และมีฉบับที่ 2 ปี 2550  เงินต้น 35,000 บาท รวมกับดอกเบี้ยด้วยเป็นเงิน 68,101 บาท รวมเงินต้นและดอกเบี้ย 118,481 บาท   โดยมียอดทวงมาทั้งหมด 17 ปี รวมยอดที่ต้องชำระทั้งสิ้นประมาณ 1,312,949 บาท และยังมีการระบุอีกว่า

“ให้ชำระหนี้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566   หากเพิกเฉยจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย“ 

ตนรู้สึกตกใจและเครียดมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะไปกู้หรือค้ำ เพราะตนเองไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรฯ และไม่เคยกู้หรือค้ำประกันใดๆ กับทางสหกรณ์เลย เชื่อว่าน่าจะเกิดความผิดพลาดแน่นอน จึงอยากให้เร่งตรวจสอบและแก้ไขด้วย

และนางทิวารดี อายุ  72 ปี   ผู้สูงอายุในบ้านหนองงูเหลือม อีกรายที่ได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์  เธอเล่ากับทีมข่าว่า เพิ่งได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตร วันที่ 18 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา 2 ฉบับ  

ฉบับแรกเป็นสัญญากู้ยืม เมื่อปี 2549 ยอดกู้ 40,000 บาท และอีก 1 ฉบับ เป็นสัญญากู้เงินปี 2550 มียอดกู้ 35,000 บาท ทั้งสองยอดรวมกันเป็นเงิน 75,000 บาทก็ตกใจทำเอากินไม่ได้นอนไม่หลับ  และยืนยันว่าไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ และไม่เคยกู้   จึงอยากให้มีการตรวจสอบช่วยเหลือด้วย

ขณะที่นางรวม  บุญพิรุณ  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองงูเหลือม   บอกกับทีมข่าวว่า เท่าที่ทราบเบื้องต้นมีชาวบ้านได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตร4 ราย ซึ่งจากการสอบถามทุกคนก็ยืนยันว่าไม่เคยกู้หรือค้ำประกันเงินกู้ของสหกรณ์การเกษตรเลย   ถึงขั้นบอกว่าไม่เคยรู้จักสหกรณ์การเกษตรด้วยซ้ำว่าตั้งอยู่ตรงไหนและที่น่าแปลกคือชาวบ้านบางคนเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2547  แต่กลับมาชื่อเป็นคนกู้และค้ำปี 2549  ก็เป็นเรื่องที่ผิดปกติ  จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบและช่วยเหลือชาวบ้านด้วย 

จากนั้นชาวบ้านก็ได้นำหนังสือทวงหนี้ที่ได้รับ ไปสอบถามที่สหกรณ์การเกษตร แต่กลับมีผู้บริหารสหกรณ์คนหนึ่งแสดงอาการไม่พอใจพร้อมต่อว่าชาวบ้านและสื่อที่ไปติดตามทำข่าว ชาวบ้านต่างก็ตกใจและพากันเดินออกจากสหกรณ์  ก่อนที่จะมีผู้บริหารคนอื่น  ออกมาขอโทษพร้อมชี้แจงว่าอาจจะเกิดจากความผิดพลาดของคณะกรรมการชุดเก่า  

ซึ่งทางสหกรณ์จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง   และหากเป็นความผิดพลาดจริง ก็จะดำเนินการแก้ไขด้วยการออกหนังสือยืนยันไม่ได้เป็นลูกหนี้และไม่ต้องชำระหนี้ใดๆ

สรุปเรื่องราวเป็นมาอย่างไร? ความผิดพลาดนี้เกิดจากคณะกรรมการชุดเก่าจริงหรือไม่? มารอฟังคำตอบกันที่อีจันค่ะ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

No stories found.

ข่าวยอดนิยม

No stories found.
logo
ข่าว อีจัน
www.ejan.co