
วันนี้ (22 เม.ย.66) ที่มัสยิดอัสซุนนะฮ์ บ้านกาแป๊ะฮูลู อ.เบตง จ.ยะลา ชาวไทยมุสลิม ทั้งเด็ก ผู้ชายและผู้หญิง ต่างแต่งกายด้วยเสื้อผ้าตามแบบอิสลาม เดินทางมาร่วมละหมาดเนื่องในวันฮารีรายอ อีฎิ้ลฟิตริกันเป็นจำนวนมาก
นายซัมซูเด็ง มะมิง อิหม่ามมัสยิดบ้านกาแป๊ะฮูลู เผยว่า ภายหลังจุฬาราชมนตรี ได้ประกาศ ให้วันเสาร์ที่ 22 เม.ย.66 เป็น “วันอีฎิ้ลฟิตริ” ประจำปี ฮิจเราะห์ศักราช 1444 พี่น้องชาวไทยมุสลิมต่างพาครอบครัวไปร่วมละหมาดที่มัสยิด จากนั้นได้ร่วมรับประทานอาหารและเดินทางไปเยี่ยมหลุมฝังศพบรรพบุรุษยังสุสาน เพื่อระลึกถึงบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว โดยในห้วงเวลานี้ถือเป็นเวลาของครอบครัวที่ญาติพี่น้องทุกคนจะมาร่วมตัว ขออภัยในส่งที่ล่วงเกินกันไว้พร้อมทั้งร่วมประกอบศาสนกิจอย่างพร้อมเพรียงกัน
หลังจากนั้นก็จะไปมาหาสู่ผู้หลักผู้ใหญ่ และท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆโดยที่ประตูชัยแห่งวัฒนธรรมมลายู หรือ ปินตูกืรบังมลายู ในพื้นที่ อ.เบตง เป็นอีกจุดหนึ่งที่มาถ่ายรูปเช็กอิน ซึ่งประตูชัยแห่งวัฒนธรรมมลายู หรือ ปินตูกืรบังมลายู นับเป็นคุณค่าทางสังคมและทางจิตใจที่มีในวิถีการดำเนินชีวิตของชุมชน และถือเป็นส่วนหนึ่งของ “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” ที่ถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปยังคนอีกรุ่นหนึ่ง
สำหรับการเฉลิมฉลองในเทศกาลฮารีรายอในปีนี้ คึกคักกว่าปีที่ผ่านมา ประชาชนจากต่างพื้นที่ รวมทั้งชาวมาเลเซียมีการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเยี่ยมเยือนญาติพี่น้องกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งตลอดสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดยาวของเทศกาลฮารีรายออีดิ้ลฟิตรีของประเทศมาเลเซียจึงคาดว่า ตลอดสัปดาห์นี้ยาวไปถึงสัปดาห์หน้าจะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางมาพักผ่อนในพื้นที่มากขึ้น