23 มี.ค. 66 พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง
ได้ยื่นคำร้องขอฝากขัง ดาบตำรวจ พีระศักดิ์ ยิ้มไพบูลย์ ผู้ต้องหาที่ 1 พันตำรวจตรี สรวิศ อินทร์ลับ ผู้ต้องหาที่ 2 และร้อยตำรวจโท สุริยะ รุกขชาติ ผู้ต้องหาที่ 3 ต่อศาลอาญาคตีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบ หรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจ ต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
ระบุพฤติการณ์ว่า ดาบตำรวจพีระศักดิ์ กับพวกแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกร้องให้ผู้เสียหายจ่ายเงิน จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อไม่ให้ถูกจับ
ผู้เสียหายให้ลูกชายโอนเงินให้แล้ว ดาบตำรวจ พีระศักดิ์ กับพวกคืนโทรศัพท์มือถือให้ผู้เสียหายแล้วปล่อยตัว
พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อว่าบุคคลทั้งสามรายน่าจะกระทำความผิดจริง จึงยื่นคำร้องขออำนาจศาลเพื่ออนุมัติหมายจับ
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิจารณาคำร้องแล้วอนุมัติหมายจับบุคคลทั้งสามราย
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 66 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบทราบว่าบุคคลตามหมายจับดังกล่าวได้มาปรากฏตัวอยู่ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่า มีรูปพรรณตรงตามหมายจับจริง จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับ และอ่านให้ฟังจนเป็นที่เข้าใจแล้วจึงทำการจับกุมบุคคล ทั้ง 3 ราย
ซึ่งในวันนี้ ดาบตำรวจทีระศักดิ์ ไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนพันตำรวจตรีสรวิศ ผู้ต้องหาที่ 2 และร้อยตำรวจโทสุริยะ ผู้ต้องหาที่ 3 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวตนเองระหว่างสอบสวน
ศาลอาญาคตีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิดที่ถูกกล่าวหามีโทษสถานหนัก พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบกระเทือนต่อความรู้สึกและศีลธรรมอันดีของประชาชน
ผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงาน อาศัยตำแหน่งหน้าที่การงานกระทำความผิด ทำลายความน่าเชื่อถือ ศรัทธา ต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ หากได้รับการปล่อยชั่วคราวอาจหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับพนักงานสอบสวน คัดค้านการขอปล่อยชั่วคราว จึงไม่มีเหตุสมควรจะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง