
ผลของยาเสพติดสร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล และล่าสุดคือเหตุกราดยิงศูนย์เด็กเล็ก หนองบัวลำภู ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 37 คน ทำให้รัฐบาลออกมาย้ำเรื่องการปราบปรามยาเสพติดว่าทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
วันนี้ (10 ต.ค.65) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งให้ตำรวจเร่งรัดปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สนองนโยบายนายกรัฐมนตรี ด้วยการเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก บูรณาการกับทุกภาคส่วน
รวมทั้งเพิ่มความเข้มในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดในพื้นที่ ให้มีการขยายผลและใช้มาตรการทางทรัพย์สิน ทั้งยึด อายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงิน ต่อผู้กระทำผิดทุกราย และติดตามนำผู้เสพมาเข้ารับการบําบัด โดยเฉพาะในชุมชน สถานศึกษา สถานบริการและสถานประกอบการ จะสุ่มตรวจตามวงรอบ ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนอย่างต่อเนื่อง ค้นหาผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตประสาทในพื้นที่ จัดทำฐานข้อมูลเพื่อพิจารณาจัดลําดับความรุนแรงของอาการ นําเข้าบําบัดรักษา และค้นหาและนําผู้เสพ เข้าสู่กระบวนการบําบัดโดยสมัครใจโดยเร็ว
นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องลงไปขับเคลื่อนนโยบายตามที่สั่งการ รวมทั้งติดตาม ตรวจสอบและควบคุมความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเด็ดขาด หากพบการกระทําความผิด จะต้องดําเนินการทางกฎหมายอาญา ทางวินัยและการปกครองอย่างเฉียบขาดทุกราย ยืนยันว่ารัฐบาลเดินหน้าป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังมาโดยตลอด
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถช่วยกันแจ้งเบาะแสยาเสพติดมาได้ที่สายด่วน 1386 ซึ่งจะได้รับรางวัลนำจับด้วย โดยขอให้ประชาชนมั่นใจเรื่องความปลอดภัยเพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลข้อมูลของคนแจ้งเบาะแสได้รับความปลอดภัยอยู่แล้ว
สำหรับผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประจำปี 2565 ว่า รัฐบาล สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดด้วยการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 24 ฉบับมาเป็นฉบับเดียว คือประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งมีผลบังคับใช้ 9 ธ.ค. 2564 โดยจะเน้นอายัดทรัพย์ ซึ่งเมื่อมีกฎหมายใหม่ สามารถยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ถึง 10 ปี ทำให้ปี 2565 สามารถบูรณาการยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดได้ถึง 10,820 ล้านบาท และจากนี้ไปคาดว่าจะสามารถยึดทรัพย์ได้มากขึ้นอีก
นายอนุชา กล่าวว่า ปี 2566 ตั้งเป้าหมายยึดทรัพย์คดียาเสพติดให้ได้มากกว่าเดิมถึง 10 เท่าที่ 100,000 ล้านบาท อีกทั้งประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาและสปป.ลาว ทำให้การจับกุมผ่านเมียนมาได้มากขึ้น รวมถึงยังบูรณาการร่วมกับทหาร ทั้งทางบก น้ำ อากาศ และตำรวจ เพื่อช่วยเฝ้าระวังการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศด้วย