Exclusive ! อีจันบุกโรงนม คุยเบื้องหลัง กับพี่ๆ ทีมงาน แม่ตกงานลูกอดนม

อีจัน พาบุกโรงนม พูดคุยเบื้องหลังกับทีมงาน แบบ Exclusive กว่าจะมาเป็น กล่องกำลังใจ – กล่องนม ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

วานนี้ (18 ก.พ.64) จัน (ต้องขอบอกก่อนว่า จันที่เขียนในที่นี้ หมายถึง นักศึกษาฝึกงาน) ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนโรงนม ซึ่งเป็นสถานที่แพ็คกล่องนม และกล่องกำลังใจ จากโครงการแม่ตกงานลูกอดนม ที่ทางอีจันและมูลนิธิปวีณา ร่วมกันจัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องที่กำลังประสบปัญหาในยุคโควิด-19

โดยทางมูลนิธิฯ ก็ได้เอื้อเฟื้อสถานที่ในการแพ็คของให้กับเรา ซึ่งก็คือร้านอาหาร ทีควู๊ด นั่นเอง แต่แหมมาแพคนมที่ร้านอาหารขนาดนี้ หายห่วงเรื่องอาหารการกินได้เลย นอกจากนี้ อีจันก็ได้รับความอนุเคราะห์ จากผู้ใหญ่ใจดี อย่างพี่ๆ J&T express และ พี่ๆ FLASH express ที่สนับสนุน ส่งทั้งกล่องนมและกล่องกำลังใจให้ถึงมือพ่อแม่พี่น้องแบบฟรีๆ เลยด้วย

เล่าเบื้องหน้าไปแล้ว วันนี้จันจะพาไปดูเบื้องหลังการทำงานของพี่ๆ ทีมแพ็ค ทั้งกล่องนมและกล่องกำลังใจกันบ้างดีกว่า เพราะกว่าจะออกมาได้แต่ละกล่องๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย

มาเริ่มกันที่ทีมงานเบื้องหลังของ #โครงการแม่นมอีจัน หรือก็คือ ทีมแพ็คกล่องนม ซึ่งเป็นพี่ๆ จาก โบ๊ทผับ ชื่ออาจจะคุ้นๆ หู เพราะ โครงการแม่นมอีจัน รอบที่แล้ว ทีมงานโบ๊ทผับ ก็เคยมาร่วมด้วยช่วยกันแล้วนะจ๊ะ

พี่กบ สุรศักดิ์ รวงโรจน์ เล่าว่า เพราะ สถานการณ์โควิด-19 ทำให้งานประจำที่ทำ ต้องปิดให้บริการชั่วคราวตามมาตรการป้องกัน พี่ๆ เลยได้มาทำงานในจุดนี้ ซึ่งในการทำงานส่วนใหญ่ย่อมมีปัญหาอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ยากเกินที่จะแก้ พร้อมกับเผยว่า “เมื่อก่อนมีปัญหาบ้างเกี่ยวกับการแพ็คของ เคยใส่นมผิดกล่องแล้วแพ็คของเสร็จเรียบร้อย วิธีแก้ ก็แค่รื้อของออกมาทำใหม่หมดเลย แต่ตอนนี้ บอกเลยว่า ไม่มีปัญหา สบายมาก เพราะว่าผ่านจุดนั้นมาแล้ว”

ส่วนสิ่งที่ได้จากการทำงานครั้งนี้ “แม้จะได้เงินไม่มาก แต่สิ่งที่ได้นอกเหนือจากเงินและงานที่ทำคือ เหมือนเป็นการส่งกำลังใจได้ช่วยเหลือแม่ๆ ที่ตกงาน ได้ช่วยเด็กๆ ให้ได้มีนมดื่มด้วย ได้บุญด้วย ถือเป็นความสุขทางใจ”

ก่อนพี่กบ สุรศักดิ์ จะทิ้งท้ายไว้ว่า หากโบ๊ทผับ กลับมาเปิดแล้ว ทีมงานคงต้องกลับไปทำงานที่เดิม แต่ถ้ามีโอกาส หรือว่าทางอีจันอยากให้ช่วยแพ็คของ ตนก็ยินดีที่จะช่วยแน่นอน !

มาดูทางฝั่งเบื้องหลัง #โครงการกล่องกำลังใจ กันบ้าง พี่ๆ เขาเป็นใครมาจากไหน วันๆ หนึ่งทำอะไรบ้าง ? วันนี้จันมีคำตอบแล้ว

พี่ใหม่ เล่าว่า ตัวเองเป็นกู้ภัยอยู่มูลนิธิเพชรเกษม แล้วก็มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับโครงการต่างๆ ของเพจอีจันมาโดยตลอด ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีน้อง ๆ ในทีมที่อยู่ในวัยเรียนช่วงมัธยมอีกด้วย แต่เพราะโควิดอีกนั่นแหละ ทำให้โรงเรียนยังไม่เปิดเรียน น้อง ๆ เลยมาช่วยกันแพ็คของอีกแรง

พี่ใหม่.เล่าต่อ ปัญหาจากการทำงาน (แพ็คกล่องกำลังใจ) จริงๆ ก็ไม่ได้เจอปัญหามากมายอะไร ก็จะมีบ้างที่กล่องใส่ของมันเล็กเกินไป ใส่ของบริจาคได้ไม่หมด เราก็ต้องหากล่องใส่ของที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อที่จะได้ใส่ของบริจาคได้พอดี แม้จะเจอปัญหาอะไร ทางทีมงานก็ไม่หวั่น เพราะ นอกเหนือจากเงินที่ได้ในแต่ละวัน อีกหนึ่งสิ่งที่ได้คือ ความสุข สุขที่ได้ช่วยเหลือคนทั่วประเทศ คนที่ตกทุกข์ได้ยากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพราะ ทำมาตั้งแต่ช่วงโควิดรอบแรกแล้ว

โดยทีมงานเบื้องหลังทั้ง 2 ทีม ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เวลาเลิกงานไม่แน่นอน หากทำงานเสร็จเร็วก็ได้กลับเร็ว เลิกงานช้าสุดก็ประมาณ 5-6 โมงเย็น ขึ้นอยู่กับจำนวนกล่องที่ต้องแพ็ค บางวันก็ต้องแพ็คของ 100-200 กล่อง ตามยอดในแต่ละ และเคยแพ็คกล่องเยอะสุดประมาณ 500-600 กล่องต่อวัน

จันได้ฟังจำนวนกล่องที่พี่ๆ เขาต้องแพ็คในแต่ละวันแล้วก็ร้อง ว้าวเลย แพ็คของกันดุเดือดขนาดนี้ พี่ๆ เขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกัน ?

จันเลยลองเดินไปสืบดู ก็ไปพบกับ ทีมงานที่สำคัญอีกทีมหนึ่ง เพราะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ! และจะขาดแม่ๆ เหล่านี้ไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ ทีมแม่ครัวใหญ่แห่งโรงนมอีจันนั่นเอง

แม่ประเทือง ภูเจิ้น เล่าว่า “ป้าทำงานกับมูลนิธิปวีณา ก็จะทำอาหารที่อีจัน และส่งไปที่มูลนิธิปวีณาด้วย มีคนมารับอาหารไปส่ง ซึ่งการทำอาหารในแต่ละมื้อ ก็จะไปจ่ายตลาดตั้งแต่เช้าตรู่ และจะถามน้อง ๆ ทีมงาน ว่าใครอยากทานอะไรบ้าง ซึ่งในหนึ่งวันจะทำอาหารทั้งหมด 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ในแต่ละมื้อจะทำอาหารอยู่ประมาณ 2 – 3 อย่าง แล้วก็จะมีของหวาน ให้เลือกทานด้วย เพราะ ทุกคนทำงานหนัก เลยอยากทำอาหารให้ทาน ให้อิ่มกันทุกคน

และถึงแม้จะเลิกงานไม่แน่นอน กว่าจะเก็บครัว เคลียร์ความสะอาดในครัวเสร็จ บางครั้งทีมงานก็ประชุมช่วงค่ำนาน ก็จะอยู่เป็นเพื่อนเขา เราทำงานกันเป็นทีมและอยู่กันแบบครอบครัว เรามีความสุขที่ได้ทำอาหาร ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือมูลนิธิและสังคม

คำถามต่อมาคือ คนเยอะขนาดนี้ งบอาหารนี่ แม่….ต้องเบิกใคร ?

แม่ประเทือง ก็ตอบว่า การทำอาหารในแต่ละมื้อ ก็ใช้งบไม่แน่นอน ประมาณไม่ได้ว่าในแต่ละมื้อจะใช้งบเท่าไหร่ แต่ป้าก็พยายามหาซื้อของที่ถูกและดีเพื่อมาทำอาหาร ในการเบิกงบ ก็จะเคลียร์ใบเสร็จที่ใช้ซื้อของในทุกครั้งไปเบิกกับทาง มูลนิธิปวีณา

ได้ไปฟัง ได้ไปเห็น ได้ไปสัมผัสเอง ถึงได้รู้ว่าพี่ๆ เขาทำงานด้วยใจกันจริงๆ จนรู้สึกขอบคุณน้ำใจ และหัวใจพี่ๆ ทีมงานเบื้องหลังทุกฝ่ายจริงๆ ค่ะ ที่ทุ่มเทเพื่อช่วยเหลือสังคมได้มากขนาดนี้

อีจันขอเป็นกำลังใจให้ทั้งทีมงานเบื้องหน้าเบื้องหลัง รวมไปถึงพ่อแม่พี่น้อง ลูกเพจทุกคน ที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาในชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้ ขอให้เราผ่านพ้นไปได้พร้อมกันนะคะ