สถานการณ์ไข้เลือดออกในประเทศไทยปีนี้ ข้อมูลจากรายงานการเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยากองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 พบว่า ไข้เลือดออกระบาดสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 110,809 ราย เสียชีวิตแล้ว 106 ราย
โดยกลุ่มเสี่ยงเป็นไข้เลือดออก ได้แก่ 1.ผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป 2.หญิงตั้งครรภ์ 3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว (โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคไตวาย, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคหลอดเลือกสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน)
หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ 1.ไข้สูงลอยมากกว่า 2 วัน 2.ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อ 3.มีจุดแดงๆ ขึ้นตามตัว 4.อาเจียนเป็นเลือด และ 5.อุจจาระมีสีดำ
สำหรับการดูแลรักษา 1.เช็ดตัวเพื่อลดไข้ 2.ดื่มน้ำมากๆ ในรายที่อาเจียนแนะนำให้จิบสายละลายเกลือแร่ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ 3.ใช้ยาพาราเซตามอล เพื่อลดไข้ได้เท่านั้น และ 4.ห้ามใช้ยา กลุ่ม NSAIDs (แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, ไดโคลฟีแนค และยาชุด)
การป้องกัน ต้องกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 1.เปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน 2.ใส่ทรายกำจัดยุงลาย 3.ปล่อยปลากินลูกน้ำ 4.กำจัดขยะหรือเศษวัสดุขังน้ำ ส่วนป้องกันยุงลาย โดยทายากันยุง นอนในมุ้ง และสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด
นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ได้แก่ 1.อ้วน 2.ไปรักษาช้า 3.กินยา NSAIDs และ 4.มีโรคประจำตัว
