สำนักงานปรมาณู ยัน ซีเซียม ควบคุมได้ ไม่ฟุ้งในอากาศ!

สำนักงานปรมาณู จัดแถลงร่วมจังหวัดปราจีนบุรี ยัน ซีเซียม – 137 ควบคุมได้ ไม่ฟุ้งในอากาศ!

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ซีเซียม-137 ซึ่งเป็น สารกัมมันตรังสี ใช้วัดพลังงานไอน้ำ จากโรงไฟฟ้าไอน้ำแห่งหนึ่ง ย่าน อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ได้หายไป

ประกาศ! บริษัทโรงไฟฟ้าให้เพิ่มอีก 1 แสน คนพบ “ซีเซียม-137”

โดย ซีเซียม-137 มีลักษณะเป็นแท่งทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว หนัก 25 กิโลกรัม มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็ก ซึ่งหากยังอยู่ในสภาพเดิมจะไม่ส่งผลกระทบ ซึ่งต่อมามีพลเมืองดีแจ้งเบาะแส เคยพบซีเซียม เจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบ

เบาะแสสำคัญ! วัตถุคล้าย ซีเซียม-137 โผล่ร้านคาร์แคร์ในพื้นที่

ล่าสุดวันนี้ (20 มี.ค. 66) เวลา 11.00 น. ที่ ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณู (ปส.) ดร.กิตติ์วิน อรามรุญ รองโฆษกฯ และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี ปส. และคณะ พร้อมด้วย นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี พล.ต.ต.วินัย นุชขา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปราจีนบุรี และนายสุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณะสุข จ.ปราจีนบุรี ร่วมแถลงข่าวกรณี ซีเซียม-137 หรือ วัตถุซึ่งมีมวลสารกำมันตรังสี หายไป หลังตรวจพบสารดังกล่าวที่ โรงงานหลอมเหล็ก ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

ด้านนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์

เลขาธิการ ปส. เผย ซีเซียมไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่เกิดจากฝีมือมนุษย์ และก่อนนี้มีโรงงานไฟฟ้าแห่งหนึ่งทำซอร์สหาย ซึ่งเป็นโรงงานที่ถือครองสารดังกล่าวมาแต่ปี 2538 และที่ผ่านมาทางโรงงานมีการดูแลสารนี้อย่างดีเยี่ยมมาตลอด กระทั่งมีข่าวซีเซียมหาย ตนจึงค่อนข้างมั่นใจว่าการหายไปของซีเซียมเกิดจากฝีมือมนุษย์

ซึ่งจากกรณีนี้ โรงงานดังกล่าวที่ทำซอร์สหาย ไปตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 66 โดยไม่ได้แจ้งทาง ปส. ทันทีที่หาย แต่มาแจ้งให้ทราบในวันที่ 10 มี.ค. แล้ว กระทั่งวันนี้ยังไม่ทราบสาเหตุเลยว่า ซอร์สหายไปได้อย่างไร?

ส่วนประเด็นที่ ซีเซียม ถูกหลอมไปแล้วนั้น นายเพิ่มสุข เลขา ปส. เผยว่า โรงหลอมเหล็กต้องใช้อุณหภูมิถึง พันองศา ในการหลอม แต่ซีเซียม แค่ 600 องศามันก็แตกแล้ว ดังนั้นที่บอกว่า เจอซีเซียม คือ ซีเซียม-137 ถูกตรวจพบอยู่ในฝุ่นแดง หรือฝุ่นโลหะที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในโรงหลอมเหล็ก

ด้าน ดร.กิตติ์กวิน อรามรุญ รองโฆษกฯ และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เผย จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบเพียง ฝุ่นแดงที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี แต่ไม่พบว่า เหล็กที่หลอมไปแล้วมีการปนเปื้อน รวมถึงได้เก็บตัวอย่าง น้ำ ดิน มาวิเคราะห์ไม่พบว่าปนเปื้อน และตรวจวัดระดับรังสีแล้ว ไม่พบการฟุ้งกระจายในอากาศ เนื่องจาก ซีเซียม อยู่ในรูปของผลึก คล้ายเกลือ ทำให้มีน้ำหนัก ทั้งนี้อยู่ในพื้นที่ปิด ไม่มีลมพัดผ่าน มันจึงไม่ฟุ้งกระจายในอาคาร ระยะห่างจากที่เก็บซีเซียมในบิ๊กแบ็คตอนนี้ 2 เมตรถือว่า ปลอดภัย

ย้ำ ซีเซียม-137 ได้ถูกควมคุมให้อยู่ในพื้นที่จำกัดได้ คืออยู่ใน ฝุ่นโลหะ หรือฝุ่นแดงดังกล่าว ภายในโรงงานหลอมเหล็กที่พบไว้แล้ว ไม่มีการปนเปื้อนออกมาภายนอก

ส่วนความผิดทางคดีนั้น พล.ต.ต.วินัย นุชขา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปราจีนบุรี เผย โรงงานไฟฟ้าดังกล่าวเป็นแบบปิด ผู้ว่าฯ ยังเข้าไม่ได้ ตำรวจยังเข้าไม่ได้ ซีเซียมหายไปได้ยังไง ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นเรียกสอบปากคำกว่า 10 ปากแล้ว แต่ทุกปากที่สอบตอบว่าไม่ทราบ

ส่วนกล้องที่อยู่บริเวณจุด ที่มีคนอ้างว่าเห็น ซีเซียม อยู่ใต้บันได ไม่สามารถจับภาพได้ เนื่องจากมองไปไม่เห็นถึงใต้บันได และขณะนี้ยังไม่มีรายงาน ความเกี่ยวข้องระหว่างโรงหลอมเหล็กที่พบซีเซียม กับ โรงไฟฟ้าที่ซีเซียมหายไป

เบื้องต้น หลัง ปส.แจ้งความร้องทุกข์ ตำรวจได้ตั้งข้อหากับโรงงานไฟฟ้า ในกรณีที่ครอบครองซีเซียมแล้วหาย ในความผิดตาม มาตรา 100 ในกรณีที่เกิดอันตรายหรือความเสียหายอันเกิดจากการประกอบกิจการตามใบอนุญาต ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่ระงับเหตุในเบื้องต้นตามแผนป้องกันอันตรายจากรังสี และต้องแจ้งเหตุ ดังกล่าวให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบทันที รวมทั้งต้องให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือแก่พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไขบรรเทา หรือระงับซึ่งอันตรายหรือความเสียหายนั้น ซึ่งทีโทษทั้งจำทั้งปรับ

นายสุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณะสุข จ.ปราจีนบุรี เผย ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลย้อนหลัง 1 เดือนตามโรงพยาบาลในจังหวัดแล้ว ว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการซึ่งได้รับผลกระทบจาก ซีเซียม หรือไม่ ปรากฏว่ายังไม่พบ และตนได้สังเกตเห็นว่าโรงหลอมเหล็กนั้น ค่อนข้างอยู่ไกลจากตัวชุมชน และจากการตรวจวัด ไม่พบการกระจายตัวของวัตถุดังกล่าว

ซีเซียม-137 หายไปได้อย่างไร ยังคงเป็นปริศนาที่ต้องหาคำตอบ

ติดตามเรื่องราวนี้ต่อที่อีจัน!

คลิปแนะนำอีจัน
ปส. แจงประเด็น ซีเซียมที่หายไป แต่คนกลับคาใจกว่าเดิม!