
จากกรณี ดาราสาวไต้หวันอ้างโดนตำรวจรีดเงิน 27,000 บาท ทั้ง ผบ.ตร. และ ผบช.น. สั่งสอบตำรวจที่ถูกกล่าวหา เพื่อหาหลักฐานมาเชื่อมโยงสู่ความจริง
ต่ามามีคำสั่งเด้ง ตำรวจ 7 นาย หลังผลการตรวจสอบ พบว่า มีมูลตำรวจที่เกี่ยวข้อง ตรวจพบบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไม่ดำเนินการตรวจยึดเพื่อตรวจสอบ หรือจับกุม ซึ่งเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
และเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 66 ผบ.ตร. ได้ออกมาเผยคำสั่งย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.หนองจอก แทน
กระทั่งวานนี้ (1 ก.พ. 66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เผย การให้ปากคำของ สกาย เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ล่าสุดวันนี้ (2 ก.พ. 66) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) ให้สัมภาษณ์สื่อถึงการดำเนินการทางคดีกับนายตำรวจสังกัด สน.ห้วยขวาง ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกรับสินบนจากทางผู้เสียหายชาวต่างชาติ หรือตามที่ ดาราไต้หวันอ้างตำรวจไทยรีดเงิน
เบื้องต้นมีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายตำรวจสังกัด สน.ห้วยขวาง ในความผิดตามมาตรา 149 และความผิดตามมาตรา 157 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งโทษสูงสุดตามความผิดในมาตรา 149 คือ ประหารชีวิต
แต่เมื่อมีการสอบสวนในชั้นพนักงานสอบสวนเพื่อทำสำนวนคดีกลับมีการปฏิเสธจาก นายตำรวจที่ถูกกล่าวหา แต่ทางคณะทำงานมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมด ซึ่งพยานหลักฐานที่ทางฝ่ายสืบสวนดำเนินการรวบรวมมาตั้งแต่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาทำงานในคดีนี้มีความคืบหน้ามากกว่าการให้ปากคำของผู้เสียหาย
โดยหลักฐานสำคัญ เป็นภาพกล้องวงจรปิดจากทางภาคเอกชนที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ของนายตำรวจที่กล่าวหาไว้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะตำรวจ 2 นายที่มีการเข้าไปพูดคุยกับทางผู้เสียหาย ส่วนที่ต้องใช้เวลานานกว่าสองสัปดาห์ในการรวบรวมภาพกล้องวงจรปิดของทางเอกชน เนื่องจากว่าต้องรอการประสานงานกับทางภาคเอกชนรวมถึงมีการขอความร่วมมือทางสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ได้รับความร่วมมือในประเด็นดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันการให้ปากคำของผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ หรือ สกาย ได้มีการชี้ตัวไม่ถึงจำนวนของนายตำรวจที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปในเบื้องต้น แต่ก็ถือว่ามีให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของคณะทำงาน
ส่วนประเด็นเรื่องกล้องประจำตัวของทางตำรวจชุดที่ตั้งด่านในวันเกิดเหตุ มีรายงานว่าทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งไฟล์กลับมาที่พนักงานสอบสวนแล้ว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ยืนยันว่าไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับผู้เสียหาย เนื่องจาก พยานหลักฐานสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการเรียกรับไม่ใช่การติดสินบนเจ้าพนักงาน ซึ่งในขั้นตอนต่อจากนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินการเอกสารทางคดีและจะมีการคุมตัวนายตำรวจที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปในเบื้องต้นไปส่งยัง ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน