
วันนี้ (13 มี.ค. 66) นายไชยวุฒิ อารีย์ชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เผยว่าเมื่อวานนี้ นายอำพล ไหลยิ้ม จนท.พิทักษ์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลางประจำที่ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานที่ ศร. 6 เขาเขียวเขาวง ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้และดูแลควบคุมไฟป่า
ขณะลาดตระเวนมาถึงบริเวณพื้นที่ ป่าห้วยเขาเขียว ท้องที่หมู่ 2 ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี พบเหตุ ไฟไหม้ป่า เป็นบริเวณกว้างลักษณะเป็นไฟที่ลามออกมาจากพื้นที่ทำการเกษตร นำกำลังเข้าตรวจสอบพบชาย 1 รายกำลังจุดไฟเผาวัชพืชอยู่ในพื้นที่ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดไฟไหม้ป่าประมาณ 20 เมตร
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเป็นพนักงานและเรียกชายดังกล่าวมา ทราบชื่อ นายศุภศิลป์ อายุ 37 ปี ให้การยอมรับว่าตนเป็นคนจุดไฟเอง เมื่้อตรวจค้นพบไฟแช็คสีแดงอยู่ในมือขวาของนายศุภศิลป์ และในการจุดไฟเผาวัชพืชครั้งนี้ นายศุภศิลป์ไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานใดทราบ เจ้าหน้าที่จึงได้จับค่าพิกัดพื้นที่เสียหายจากไฟไหม้ป่าคำนวณเนื้อที่ได้ 2 ไร่ 2 งาน 16 ตารางวา
ซึ่งเขตพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช2484 ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพระฤาษีและป่าเขาบ่อแร่แปลงที่2 ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ 2507 และเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ 2562
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้นายศุภศิลป์ทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดดังนี้
1. ความผิดฐานเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 ตามความในมาตรา 54 ประกอบมาตรา 72
2. ความผิดฐานเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ 2507 มาตรา14 ประกอบมาตรา 31
3. ความผิดฐานเผาป่า หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพไปจากเดิมภายในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติพ.ศ 2562 มาตรา 19 (1) ประกอบมาตรา 41
ด้านเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานจัดทำบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พบเห็นไฟไหม้ป่า โปรดแจ้งหน่วยงานดับไฟป่าในพื้นที่ หรือโทรสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง