
วันนี้ (14 ธ.ค. 65) นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เล่าความประทับใจ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีญาติผู้ป่วยตัดสินใจมอบอวัยวะ เพื่อส่งต่อลมหายใจให้อีก 6 ชีวิต
เรื่องราวดังกล่าวนับว่าเป็นเรื่องที่สร้างความประทับใจ ให้กับโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมีผู้ป่วยชาย อายุ 28 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ได้รับบาดเจ็บทางสมองอย่างรุนแรง
ทีมศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้พยายามช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเต็มที่ แต่ไม่อาจรักษาจนสมองกลับฟื้นคืนมาได้ เพราะผู้ป่วยอยู่ในสภาวะสมองตาย แต่สมรรถภาพของหัวใจ และอวัยวะอื่น ยังทำงานปกติ
ทีมพยาบาลจึงได้ร่วมพูดคุยกับ บิดา มารดา และญาติผู้ป่วย ถึงแนวทางการรักษา และโอกาสที่สมองของคนไข้จะกลับฟื้นคืนมา มีโอกาสน้อยมาก จึงขอรับบริจาคอวัยวะให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เพื่อส่งต่อให้ผู้ป่วยที่รอปลูกถ่ายอวัยวะต่อไป
ญาติของผู้ป่วยได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะ ให้กับโรงพยาบาล จึงได้ประสานไปยังสภากาชาดไทย เพื่อเตรียมทีมแพทย์ พยาบาล พร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ มาเตรียมปลูกถ่ายอวัยวะ
อวัยวะที่มีความสำคัญ และต้องได้รับการปลูกถ่ายโดยด่วน คือหัวใจ ซึ่งต้องใช้เวลาในการขนย้ายภายใน 4 ชั่วโมงเท่านั้น การวางแผนในทุกขั้นตอนของทีมแพทย์ และพยาบาล จึงสำคัญมาก เนื่องจากระยะทางจากโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ไปยังกรุงเทพมหานคร มีระยะทางค่อนข้างไกล เนื่องจากในขณะนั้นไม่มีสายการบินพาณิชย์บินในขณะนั้น จึงประสานไปยังสนามบินกองทัพอากาศ กองบิน 5 อ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศ ในการขนย้ายหัวใจ
ทีมแพทย์ และพยาบาล จากโรงพยาบาลศิริราช ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร มายังโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เพื่อมาทำการปลูกถ่ายหัวใจ ซึ่งใช้เวลาในการปลูกถ่ายไม่นาน ทีมแพทย์ ได้เก็บรักษาหัวใจในภาชนะที่มีการควบคุมอุณหภูมิ แล้วเดินทางไปยังสนามบินกองทัพอากาศ กองบิน 5 อ่าวมะนาว ระยะทางไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก
เมื่อถึงกองบิน 5 มีเครื่องบินเล็กอาสา จอดรอเพื่อเตรียมความพร้อมในการออกเดินทาง เมื่อทีมแพทย์มาถึง ได้นำหัวใจออกเดินทางจาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงกรุงเทพฯ อย่างปลอดภัย
สำหรับอวัยวะในส่วนอื่นๆ ทีมแพทย์ที่เหลือ จะทำการปลูกถ่ายอวัยวะก่อนเดินทางโดยรถยนต์ กลับไปยังกรุงเทพฯ เพื่อมอบให้สภากาชาดไทย ปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยที่รอคอยต่อไป
อีจัน ขออนุโมทนาบุญ และชื่นชมไปยังครอบครัวผู้บริจาค และทีมแพทย์ พยาบาล ทั้งทางโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และโรงพยาบาลศิริราช ทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่นี้