ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Smith Fa Srisont” โดยเป็นการเผยแพร่แถลงการณ์ของแพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด อาจารย์แพทย์ ศิษย์เก่าแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 851 คน ที่ขอแสดงจุดยืนและเรียกร้องให้รัฐบาล ปิดสภาวะกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศทันที โดยได้อ้างอิงรายละเอียดจากจดหมายเปิดผนึกฉบับที่สองขอให้ออกมาตรการ “ปิดสภาวะกัญชาเสรีในสภาวะ สุญญากาศทันที” และ “จัดให้มีกระบวนการรับฟังผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อร่วมกัน ออกแบบนโยบายกัญชาของประเทศไทย”
โดยในเอกสารแถลงการณ์ระบุว่า
เนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ.2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2565 ที่ผ่านมาได้กำหนดให้พืชกัญชาไม่เป็นยาเสพติด แต่ไม่มีนโยบายควบคุมการใช้กัญชาอย่างครอบคลุมและปลอดภัยจึงทำให้มีการใช้กัญชาอย่างเสรีในเชิงนันทนาการอย่างแพร่หลาย นำไปสู่การเข้าถึงการใช้กัญชาของเด็กและเยาวชน ซึ่งผิดจากเหตุผลของการออกนโยบายกัญชาเสรี ที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องเคยกล่าวอ้างว่า ต้องการให้ประชาชนได้เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์มากขึ้น นอกจากนี้การใช้กัญชาอย่างเสรีโดยปราศจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์นั้น มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนมากมายว่า ส่งผลกระทบต่อร่างกายและการเจริญเติบโตของสมอง ในเด็กและวัยรุ่นอย่างมาก สถานการณ์ในปัจจุบันนี้จึงนับว่าเป็นภัยคุกคามต่อระบบสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแท้จริง
แพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด อาจารย์แพทย์และศิษย์เก่าแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ตามรายชื่อแนบ 851 รายชื่อ ในฐานะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย เล็งเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปิดใช้กัญชาเสรีโดยไม่มีการกำกับควบคุมอย่างเหมาะสมในขณะนี้ จึงขอแสดงจุดยืนสนับสนุน จดหมายเปิดผนึกฉบับที่สองของเครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด ที่ขอให้ออกมาตรการ “ปิดสภาวะกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศทันที” และ “จัดให้มีกระบวนการรับฟังผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายกัญชาแห่งประเทศไทย” และ แคมเปญ “ชะลอกัญชาเสรี ขอออกกฎหมายคุ้มครองไม่ให้เด็กใช้กัญชาออกมาก่อน” บนช่องทาง change.org (change.org/DelayCannabisLaw) ของภาคประชาชน ซึ่งมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 6,000 คน เพื่อให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง หยุดภัยคุกคามทางสุขภาพในครั้งนี้โดยเร็วที่สุด รวมถึงปรับแก้ให้ใช้งานกัญชาได้ประโยชน์อย่างสูงสุดทางการแพทย์โดยควบคุมและป้องกันผลกระทบต่อประชาชนให้เกิดน้อยที่สุด ดังเช่นเหตุของการออกนโยบายแต่เดิมที่ได้เคยกล่าวอ้างไว้
ซึ่งจากการตรวจสอบการลงชื่อในแคมเปญดังกล่าว ล่าสุดพบว่า มีผู้ลงชื่อไปกว่า 10,000 คนแล้ว