หลังจาก อีจัน นำเสนอข่าว เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้ธุรกิจให้เช่าซื้อ “รถยนต์ – รถจักรยานยนต์” เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา คิดดอกเบี้ยแบบ “ลดต้น-ลดดอก” ซึ่งนำเสนอเมื่อวันที่ 14 ต.ค.65 โดยมีคอมเมนต์คำถามเยอะว่า คนที่กำลังผ่อนอยู่ได้สิทธิ์นี้ไหม ?
ราชกิจจาฯ ประกาศเช่าซื้อ”รถยนต์-จยย.” ให้คิดดอกเบี้ยแบบ “ลดต้น-ลดดอก”ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2565 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2541 ประกอบกับมาตรา 3 มาตรา 4 และมาตรา 5 แห่ง พ.ร.ฎ.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการกำหนดธุรกิจที่ควบคุมสัญญาและลักษณะของสัญญา พ.ศ.2542 โดยจะมีผลบังคับใช้หลังพ้นกำหนด 90 วันนับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา (12 ต.ค.65) เป็นต้นไป หรือราว ๆ วันที่ 11 ม.ค.66
เพื่อตอบคำถามที่สงสัยกันว่า คนที่ซื้อรถยนต์-รถจักรยานยนต์แล้วในตอนนี้ และกำลังอยู่ระหว่างผ่อนชำระค่างวด ก่อนที่ประกาศราชกิจจาฯ มีผลบังคับใช้ จะได้สิทธิ์คิดดอกเบี้ยแบบลดต้น-ลดดอก หรือไม่ ?
อีจัน สอบถามกับ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความอิสระ บอกว่า โดยปกติแล้วสัญญาเก่าที่เกิดขึ้นก่อนที่กฎหมายจะบังคับใช้จะเป็นไปตามสัญญาที่ทำกันมาก่อน ซึ่งกฎหมายใหม่จะใช้กับสัญญาใหม่ที่ทำขึ้นหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ทนายเกิดผล บอกว่า สัญญาเช่าซื้อรถยนต์-รถจักรยานยนต์ ที่ทำขึ้นก่อนที่กฎหมายจะบังคับใช้ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้เช่าซื้อและผู้ขายที่ทำสัญญากันว่าจะตกลงทำสัญญากันใหม่หรือไม่ขึ้นอยู่กับเจตนาของทั้งคู่
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามรายละเอียดของประกาศที่ระบุไว้ใน ข้อ 7 บรรดาสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผู้ประกอบธุรกิจได้ทำกับผู้บริโภคตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2561 ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้คงใช้บังคับได้ต่อไป
สำหรับสาระสำคัญของประกาศฉบับใหม่นี้ คือ
กรณีที่ผู้เช่าซื้อมีความประสงค์จะขอชำระเงินค่าเช่าซื้อทั้งหมดในคราวเดียว เพื่อปิดบัญชีค่าเช่าซื้อ โดยไม่ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อเป็นรายงวดตามสัญญาเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าซื้อโดยให้คิดคำนวณตามมาตรฐานการบัญชีว่าด้วยเรื่องสัญญาเช่าที่คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชีกำหนดและปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการจัดทำบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชีและกฎหมายอื่น ดังนี้
ก. กรณีชำระค่างวดมาแล้วไม่เกิน 1 ใน 3 ของค่างวดเช่าซื้อที่ระบุไว้ในสัญญาให้ได้รับส่วนลดในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
ข. กรณีชำระค่างวดมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่างวดเช่าซื้อที่ระบุไว้ในสัญญาให้ได้รับส่วนลดในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
ค. กรณีชำระค่างวดมาแล้วเกินกว่า 2 ใน 3 ของค่างวดเช่าซื้อที่ระบุไว้ในสัญญาให้ได้รับส่วนลดทั้งหมดของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ