
27 ก.พ. 66 หลังจากที่ นายแทนไท ณรงค์กูล พร้อมด้วยทนายความ ได้เข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ หลังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส กว่า 100 ล้านบาท นั้น
นายแทนไท เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เข้าพบ ดีเอสไอ ตามหมายเรียกในฐานะพยาน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน (มูลฐานพนันออนไลน์) โดยตนเองก็เป็นนักลงทุนคนหนึ่งที่มองหาโอกาสทางธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและบริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด
ซึ่งตนมีสัญญาการให้ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด กู้ยืมเงินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ตนได้นำหลักฐานการให้กู้ยืมเงิน เป็นแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ จำนวน 150 ล้านบาท และ 50 ล้านบาท ที่นำเงินจากบัญชี บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ไปซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้ กับ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด รวมถึงมีเอกสารการบอกเลิกสัญญากับ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด เนื่องจากสัญญาเงินกู้มีข้อความระบุชัดเจนในเหตุแห่งการบอกเลิกสัญญาว่า “ด้วยปรากฏสถานการณ์ข่าวในเชิงลบต่อผู้กู้ จนเป็นเหตุให้ผู้กู้ประสบปัญหาในการประกอบกิจการ ทำให้ไม่สามารถหารายได้เพียงพอต่อการชำระค่าดอกเบี้ยแก่ผู้ให้กู้ได้ตามสัญญา ผู้ให้กู้จึงประสงค์เลิกสัญญา”
ซึ่งเงินที่ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด โอนคืนกลับมาให้ กับ บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ในวันที่ 30 มกราคม 2566 จำนวน 100 รายการ รายการละ 2 ล้านบาท รวม 200 ล้านบาท ตนขอยืนยันว่าเงินจำนวนดังกล่าว คือเงินต้นที่ให้กู้ยืมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
และในวันนี้ ตนก็ได้นำหลักฐานมาแสดงให้กับทางดีเอสไอด้วย
นายแทนไท กล่าวต่อไปว่า ตนพร้อมพิสูจน์ความจริงว่าเงินที่ตนนำมาลงทุนทำธุรกิจทั้งหมด ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และการฟอกเงิน ซึ่งหากมีการกล่าวหาตนโดยปราศจากข้อเท็จจริง ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงและสังคมเกิดความเข้าใจผิด รวมถึงทำให้ธุรกิจได้รับความเสียหาย ตนคงต้องพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป