จากกรณีที่ อดีตทหารหญิง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ ส.ต.ท.หญิง ซึ่งเป็นนายจ้างของตนเองว่าถูกบังคับใช้แรงงาน และทำร้ายร่างกาย ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ภายหลังที่มีการนำเสนอข่าว ตำรวจได้มีการ สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนพบว่าผู้ก่อเหตุคือ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 และจากการสอบสวนปากคำ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ทราบว่า ตนเองรู้จักกับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ มาเป็นเวลาหลายปี โดยก่อนหน้านี้ตนได้มาช่วยทำงานที่ร้านกาแฟ ก่อนจะปิดตัวลงในภายหลัง เนื่องจากขายไม่ดี
ต่อมา ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ แจ้งว่าจะฝากตนเข้ารับราชการทหาร โดยเรียกเงินค่าดำเนินการ จำนวน 5 แสนบาท ซึ่งตนนั้นได้จ่ายให้แล้วบางส่วน เหลือยอดหนี้ที่ผู้ต้องหาต้องการอีก 240,000 บาท โดยได้หักออกจากเงินเดือนหลังเข้ารับราชการแล้ว เหลือเพียงเดือนละ 3,000 บาทต่อเดือน
จากนั้น ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ได้ย้ายตนไปช่วยราชการ และยังบังคับให้ตนมาทำงานอยู่ที่บ้านของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ โดยทำหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน ขับรถ ดูแลเรื่องอาหารการกิน และอื่นๆ ตามที่อีกฝ่ายสั่ง แต่เมื่อตนทำสิ่งใดไม่ถูกใจ ก็จะถูก ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ทำร้ายร่างกายหลายครั้ง
ต่อมา ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ได้บังคับให้ตนลาออกจากทหาร และขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะทำร้ายร่างกายอีก ตนจึงยื่นหนังสือลาออกจากราชการ เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา แต่อีกฝ่ายก็ยังบังคับและทำร้ายร่างกายตนเช่นเดิม
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (20 ส.ค. 65) ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ได้เข้ามอบตัวต่อตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ คือ
“เป็นข้าราชการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยการข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือให้บริการโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของบุคคลนั้นเอง หรือผู้อื่น โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะอ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา หรือทางอื่นใดโดยมิชอบ ขู่เข็ญว่าจะใช้กระบวนการทางกฎหมายโดยมิชอบ หรือโดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น แก่ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลบุคคลนั้น เพื่อให้ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ให้ความยินยอมแก่ผู้กระทำความผิด ในการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลที่ตนดูแล อันเป็นความผิดฐาน ค้ามนุษย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ (ความผิดตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 , มาตรา 6/1 , มาตรา 13 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295)”
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร กล่าวว่า คดีดังกล่าว เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงได้กำชับให้มีความละเอียดรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้ความช่วยเหลือกับเหยื่อให้ได้รับความยุติธรรม ในกรณีของตัวตำรวจหญิงซึ่งได้มอบตัวแล้วนั้น จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดและไม่มีการยกเว้น นอกจากนี้จะให้ทางต้นสังกัดพิจารณาโทษทางวินัยเพื่อมิให้เกิดการกระทำผิดในลักษณะเช่นนี้อีก
รายงานระบุด้วยว่า ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ได้มอบตัวพร้อมใบรับรองแพทย์ โดยอ้างว่าขณะเกิดเหตุควบคุมตัวไม่ได้ และรักษาตัวมาประมาณ 2 ปีแล้ว โดยระหว่างให้ปากคำ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ได้ร้องไห้ออกมาด้วย
คลิปแนะนำอีจัน
ส.ต.ท.หญิง อ้างป่วย-ควบคุมตัวเองไม่ได้?