28 ปี ผ่าน คดีพลอยแดง ศาลสั่งตำรวจ เยียวยา แต่ไร้การเหลียวแล

ทิ้งไว้ 28 ปี ไม่เหลียวแล? 28 ปี คดีพลอยแดง ศาลสั่งตำรวจเยียวยา แต่ไร้การเหลียวแล พลอยไม่ได้คืน
28 ปี ผ่าน คดีพลอยแดง ศาลสั่งตำรวจ เยียวยา แต่ไร้การเหลียวแล

ปริศนาพลอยเเดงหาย !

นายวีรชาติ คุ้มพันธุ์ พร้อมลูกชาย นายนที คุ้มพันธุ์ และ นายธันยพัฒน์ ธรรมเทียมชัย ทั้ง 3 คน คือ ผู้เสียหายในคดีปริศนาพลอยเเดงหาย ได้มาออกรายการโหนกระเเส เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยคดีได้มีการพิพากษากันจบเเล้ว เเต่ยังไร้การเยียวยาจากสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ

เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2538 

มีการร่วมหุ้นกันซื้อพลอย 2 ก้อน มาจาก ประเทศเมียนมา 

1.นายธันยพัฒน์ 2.วีรชาติ  3.นายเเพทย์สวัสดิ์ (เสียชีวิตเเล้ว) เเละ 4.นายเอก ปาลกะวงศ์ ซื้อมาจากพม่า มีหุ้นส่วนซื้อกัน 3-4 คน มีอา มีวีรชาติ นพ.สวัสดิ์ เสียไปแล้ว และนายเอก ปาลกะวงศ์ โดยทำสัญญาซื้อขายกันในจำนวนเงิน 52 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 1,300 ล้านบาท 

หลังจากที่ซื้อพลอยมาเเล้ว ได้เอาไปเทสต์เบื้องต้น ว่า เป็นพลอยจริงหรือเปล่า ที่สถาบันอัญมณีแห่งประเทศไทย ซึ่งก็มีหนังสือยืนยันว่าเป็นของจริง พลอย 2 ก้อนนี้มีมูลค่ามหาศาล โดยมีใบเซอร์เกสรับรอง 

นายธันยพัฒน์  เล่าว่า “ที่เขาบินมาซื้อ เพราะอเมริกาให้เอาอัญมณีไปค้ำประกันในตลาดหลักทรัพย์ได้ ระหว่างที่รอจ่ายเงินนั้น ก็มีเพื่อนของนายเอก พ.ต.อ.นิยม เขามากินมาเที่ยว ก็รับทราบว่าพลอยนี้มีมูลค่า เขาก็อาจคิดในทางที่ไม่ค่อยดีนัก เลยไปวางแผนกัน อันนี้เราไม่ทราบนะ สร้างเป็นสตอรี่ขึ้นมา”

นายเอกกับ พ.ต.อ.นิยม ไปพูดคุยกันและวางแผนขึ้นมา ?

ธันยพัฒน์ บอกว่า พ.ต.อ.นิยม ให้ไปแจ้งความที่ สภ.นครพนม ให้นายวิสูตรไปแจ้งความ ว่า นายเอกเป็นคนยักยอกพลอย แล้วออกหมายจับนายเอก หลังจากนั้น พ.ต.อ.นิยม ก็ใช้อุบายหลอกหุ้นส่วนทุกคนว่า เปิดพลอยออกมา เดี๋ยวจะมีการจ่ายเงินกันแล้ว นายวิลเลียม เอเกา ประธานบริษัทซื้อขายจะมาจ่ายเงินแล้ว ให้เอาพลอยออกมาเพื่อตรวจสอบครั้งสุดท้าย หุ่นส่วนทุกคนจึงเบิกพลอยออกมา เเต่เมื่อคุยกันเสร็จเเล้ว มันเลยเวลาที่จะเอาพลอยกลับไปฝากที่ธนาคาร จึงไปเปิดโรงเเรมเพื่อนอนเฝ้าพลอย

คนที่นอนเฝ้าพลอย คือ นายวีรชาติ เพื่อนของนายวีรชาติ เเละนายเอก

ระหว่างที่อยู่โรงเเรมนั้น

จู่ๆ พ.ต.อ.นิยม ก็ได้นำกำลังตำรวจรวม 6 คนมาที่โรงเเรม พร้อมยึดพลอยเเละจับนายเอกไป โดยที่ไม่มีใครได้เห็นหมายจับเลยสักคน

นายธันยพัฒน์ เล่าว่า “เราถามหัวหน้าพันตำรวจที่มาจับ คือ พ.ต.ท.อาจ ซึ่งตายไปแล้วว่าต้องไป สน.ลุมพินี ใช่ไหมเพื่อไปเเจ้งความ จึงเดินทางไปเเต่ปรากฏว่า เขาไม่ได้ไปหลอกให้เราไปลุมพินี แล้วมีผู้ใหญ่ ระดับพลตรี เขามาบัญชาการ ให้พันตำรวจโทสารวัตรสอบสวนคนหนึ่งโทรไปหา พ.ต.อ.นิยม เพราะเราแจ้งว่าเรื่องมาจากนายนิยม เขาโทรไปที่ พ.ต.อ.นิยม พ.ต.อ.นิยมก็บอกว่าใช่ ผมให้กำลังไปจับตามหมายจับ แต่ทีนี้ ตำรวจบอกว่า มีผู้โต้แย้งกรรมสิทธิ์อยู่ ขอให้ระงับเอาพลอยไว้ก่อน เขาจะตามขึ้นไปที่ จ.นครพนม”

หลังจากนั้นหุ้นส่วนที่เหลือก็ได้เดินทางไปที่ จ.นครพนม เพื่อไปตามหาพลอย

ตำรวจบอกว่า คืนพลอยให้นายวิสูตรเเล้ว 

“เขาบอกโจทก์และจำเลยยอมความกันได้ เขาเลยคืนของกลางไป โจทก์คือนายวิสูตร จำเลยคือนายเอก ก็จบข่าวเลย พลอยหาย หาไม่เจอ” นายธันยพัฒน์บอก

มีการฟ้องร้องคดีกันศาลชั้นต้น หุ้นส่วนเเพ้ เเต่มีการอุทธรณ์จนชนะ ฎีกาก็ชนะ หุ้นส่วนได้ฟ้องไว้พร้อมกับคดีแพ่ง ซึ่งศาลแพ่งก็ชนะ 

6 คนที่ฟ้องมีใครบ้าง?

จำเลยที่ 1 คือ วิสูตร ที่เป็นนกต่อ (เสียชีวิตเเล้ว)

จำเลยที่ 2 คือ นายเอก ปาละกวงศ์

จำเลยที่ 3 คือ พล.ต.ต.นิยม

จำเลยที่ 4-5 คือ ลูกน้องในทีมของ พล.ต.ต.นิยม

จำเลยที่ 6 คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ศาลตัดสินให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 6 ชดใช้ร่วมกันในเงินต้น 52 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งตัดสินวันที่ 18 ส.ค.64 ที่ผ่านมา รวมตัวเลขแล้วอยู่ที่ 157 ล้านเศษ ซึ่งจำเลยที่ 1 เสียชีวิตเเล้ว จำเลยที่ 3 หายตัวไป ก็เหลือเเค่จำเลยที่ หก สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ที่จะต้องรับผิดชอบ 

เเต่ผ่านมาเเล้ว 2 ปี ยังไม่ได้เงินสักบาทเดียยว

หลังศาลตัดสินตำรวจได้เรียก หุ้นส่วนประชุม เเต่ก็สรุปกันไม่ลงตัว เพราะเขาบอกว่าเขาสามารถจ่ายได้เลยตอนนั้น เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ของเงิน 157 ล้าน ซึ่งตีเป็นเงิน ประมาณ 7 ล้านกว่าบาท หารสาม ตกคนละ 2 ล้านกว่าบาท เเต่เมื่อได้เงินเเล้ว ก็ยังใช้ไม่ได้เพราะกรมบังคับคดีคุมอยู่ 

ผู้เสียหายเป็นหนี้ เพราะ มีการกู้ยืมเงินมาซื้อพลอย

จนต้องถูกสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย

ซึ่งเรื่องนี้ อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน เเสดงความคิดเห็นว่า “สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องจ่ายอยู่แล้ว ตกลงลดดอกเบี้ยกันหรือยัง ดูตามที่ท่านบันทึกมันกลับไปกลับมา นายกฯก็สั่งให้ต่อรอง เมื่อต่อรองแล้วสำนักงานตำรวจเเห่งชาติก็ต้องจ่าย ต้องจ่ายจากงบประมาณแผ่นดิน ผมแนะนำให้ไปยื่นคำร้องที่ศาล ให้เรียก ผบ.ตร.มาชี้แจงเอง ถ้า ผบ.ตร.บอกสำนักงบ ก็เรียกสำนักงบมาถาม ทำไมถึงไม่จ่าย

ถ้าผมเป็นทนายฝ่ายนี้ ผมจะออกหนังสือขอให้ศาลออกหมายเรียก ผบ.ตร.กับ ผอ.สำนักงบประมาณ มาคุยว่า ทำไมไม่จ่าย เอามาจ่ายก่อน ส่วนหาคนรับผิดชอบอีกครั้ง เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตำรวจต้องไล่เบี้ยเอา เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐที่บกพร่อง ต้องเป็นแบบนั้น ไม่งั้นเขาเสียโอกาส ชาวบ้านต้องได้เงินมาใช้นะ เพราะเขาถูกฟ้องล้มละลาย เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์เขาก็รอจะยึดทรัพย์อยู่ ความจริงเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ควรไปเร่งรัดด้วย

3 ครอบครัวเดือดร้อนก็ประชาชนเหมือนกัน ไม่ใช่คนเดียว เดือดร้อนแล้วไม่สนใจ นี่ทิ้งเขาไว้ข้างหลังตั้ง 28 ปีแล้ว ไม่ดูแลกัน มันก็ไม่ถูก” อ.ปรเมศวร์ กล่าว

ซึ่งขณะนี้เรื่องราวผ่านมาเเล้ว 28 ปี

พลอยเเดงยังหายเป็นปริศนา ที่ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน ?

คลิปแนะนำอีจัน
บิ๊กเด่นรับ ใช้กระสุนจริงควบคุมเหตุ! สารวัตรคลั่ง กราดยิงสายไหม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

No stories found.

ข่าวยอดนิยม

No stories found.
logo
ข่าว อีจัน
www.ejan.co