
หลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความเปลี่ยนไปของ สวนเบญจกิติ รวมทั้งมีการแชร์รูปของ เกาะต้นไม้ กลางบึงน้ำ ที่มีสภาพแห้ง และน้ำส่งกลิ่นเหม็น
ล่าสุดเมื่อวานนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า สวนป่าเบญจกิตินั้นเป็นสวนที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นลักษณะแบบสนามหญ้าทั่วไป จึงมีสภาพจริงในรูปแบบของป่ามากที่สุด ดังนั้นเนินที่มีหญ้าแห้งเหี่ยวหรือตายนั้น ทางผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เป็นเรื่องปกติ ส่วนเรื่องน้ำนั้น เป็นน้ำที่ระบายมาจากคลองไผ่สิงโต ซึ่งคุณภาพน้ำยังมีปัญหาอยู่ จึงสั่งการลงไปให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดูแลในเรื่องของคุณภาพน้ำที่นำมาใช้ให้ดีมากยิ่งขึ้น
ขณะที่เพจ สวนเบญจกิติ ได้โพสต์ข้อความชี้แจงว่า ในภาพจะเห็นว่าในแต่ละเกาะที่ปลูกหญ้ามีทั้งหญ้าที่งอกอยู่ และที่แห้งตายไป นั่นเป็นเพราะหญ้าที่ปลูกบนเกาะเป็นหญ้ารูซี่ เป็นหญ้าที่มีอายุหลายปี ต้นกึ่งเลื้อยกึ่งตั้ง สามารถเจริญเติบโตในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำได้ ขึ้นได้ดีในพื้นที่ดอน ดินมีการระบายน้ำดี ทนแล้งพอสมควร ทนต่อการเหยียบย่ำของสัตว์ ไม่ทนน้ำท่วมขัง นิยมปลูกเพื่อเลี้ยงสัตว์ดังกล่าว ซึ่งในสภาพปลูกในสวน จะไม่มีการเก็บเกี่ยว ปล่อยให้ออกดอกติดเมล็ดเพื่อเป็นอาหารของนก เมื่อหญ้าติดเมล็ดต้นก็จะโทรมและตายไป ปล่อยเมล็ดที่ร่วงหล่นได้งอกขึ้นมาใหม่ตามวัฎจักรของธรรมชาติ
ส่วนเรื่องน้ำเน่าเสียในสวน ผู้ออกแบบได้บอกไว้ว่า สวนนี้สร้างขึ้นเพื่อนำน้ำเสียจากชุมชน ซึ่งมาจากคลองไผ่สิงโตมาบำบัดในสวน ด้วยวิธีธรรมชาติ โดยน้ำเสียจากคลองนี้จะเข้ามาบริเวณ Dog Park แล้วไหลไปตามรางน้ำที่เชื่อมในทุกๆ บ่อ ระหว่างทางจะได้รับการฆ่าเชื้อด้วยแสงแดด และพืชน้ำต่างๆ จนสะอาดพอที่แมลงปอจะอาศัยอยู่ได้
ซึ่งช่วงนี้เป็นฤดูแล้ง ฝนไม่ตก มันจึงทำให้เกิดภาพดังกล่าว แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ผู้ออกแบบตั้งใจ เพราะคิดว่าอยากให้คนกรุงได้เห็นความแตกต่างของทิวทัศน์ในแต่ละช่วงของฤดูกาลบ้าง มิใช่มีแต่ความเขียวขจีตลอดปี (ซึ่งสามารถไปดูได้ในสวนสาธารณะอื่นๆ) นำเสนอสวนป่าในรูปแบบที่คนกรุงจะพบเห็นได้น้อย เพื่อให้ได้เป็นแหล่งศึกษาของเยาวชนและผู้สนใจ