วันนี้(16 มี.ค. 66) เวลาประมาณ 14.00 น. ที่ผ่านมา ที่กองพยาธิกรรม รพ.ภูมิพลอดุลยเดช พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.ร่วมกับตำรวจ สน.สายไหม ตรวจสอบผลการชันสูตรศพ สารวัตรกานต์
ก่อนที่จะนำผลไปสรุปสำนวนคดี หลังจากที่เมื่อวานนี้หน่วยอรินทราช 26 ได้เปิดปฏิบัติการบุกเข้าจับตัวสารวัตรกานต์ และมีการยิงต่อสู้กัน หลังจากนั้นสารวัตรกานต์ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ภายหลังร่วมชันสูตรศพเป็นเวลา 20 นาที พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ผลการตรวจหาสารเสพติดในเลือดผู้ตาย เบื้องต้นพบสารเสพติดกลุ่มกัญชาในร่างกาย แต่จะต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน คาดว่าอีก 3 วันจะได้ผลตรวจที่แน่ชัด
เบื้องต้นแพทย์ รายงานว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการเสียเลือด แต่ไม่พบกระสุนตกค้างในร่างกาย เนื่องจากกระสุนทะลุออกจากร่างกายทั้งหมด มีรอยถากตามร่างกาย แต่จุดที่กระสุนเข้าหลักๆ เป็นร่างกายช่วงหน้าอกลงไป มีกระสุนทะลุปอดและมีอาการตกเลือดในช่องท้อง
พร้อมกับยืนยันว่าตำรวจไม่ได้หวังที่จะยิงให้เสียชีวิต แต่เนื่องจากในขณะที่เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปจับนั้น มีการใช้กระสุนยางและปืนไฟฟ้า แต่สารวัตรกานต์มีการยิงตอบโต้ ทำให้ตำรวจอีกชุดที่มีการใช้กระสุนจริง ยิงตอบโต้จนสารวัตรกานต์กระโดดจากชั้น 2 ร่วงลงมา
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย โดย เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาทุกวิถีทางแล้ว แต่ไม่สามารถเจรจาได้ จนให้ทางทีมแพย์จิตเวชเข้ามาประเมิณ แล้วพบว่าไม่สามารถพูดคุยได้แล้ว จึงจำเป็นต้องบุกเข้าไปชาร์จตัว
ซึ่งตัวพี่ชายของสารวัตรกานต์คนนี้ เป็นผู้กำกับการตำรวจ ติดใจในสาเหตุการตายว่าเกิดจากการทำร้ายร่างกายหรือไม่ แต่ประเด็นนี้สามารถอธิบายทางการแพทย์ได้ว่าเกิดจากการปะทะ จากนี้จะรายงานผลให้ ผบ.ตร.รับทราบและให้ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงอีกครั้ง
โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เข้าไปทำภารกิจครั้งนี้ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมชี้แจงการปฏิบัติ ซึ่งตำรวจทำงานตามยุทธวิธี ซึ่งเรื่องนี้สามารถชี้แจงได้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาปฎิบัติงานนานกว่า 28 ชั่วโมง ไม่ถือเป็นความล้มเหลว เพราะทุกขั้นตอนมีการวางแผนอย่างละเอียด และป้องกันความเสียหายได้มากที่สุด ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าไปรวบรวมกระสุนและพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมจำลองเหตุการณ์ก่อนนำผลมาประกอบสำนวนคดี
นอกจากนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังบอกอีกว่า สำหรับเรื่องการเยียวยา ทาง ผบ.ตร. ได้มีการสั่งการให้เยียวยาทั้ง 2 ฝ่าย ทั่งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และครอบครัวของสารวัตรกานต์ด้วย เพราะที่ผ่านมา เจ้าตัวเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ที่สร้างคุณความดีมาตลอดการรับราชการ และที่ผ่านมาก็ได้ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ
สำหรับร่างของสารวัตรกานต์นั้น ญาติและครอบครัว จะนำไปบำเพ็ญกุศลตามหลังศาสนาต่อ โดยญาติได้ขอความเป็นส่วนตัวในการนำร่างออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากว่า ยังไม่สามารถทำใจได้
ตอนเช้าที่หมอจาก รพ.ตำรวจ จะรับไปรักษา เขาก็มีอาการสติแตกเลย อีกเรื่องเป็นปัญหาส่วนตัวของเขา 2 อย่างนี้เป็นปัจจัย ที่ทำให้เขา
ในเรื่องจิตเวช เขาไม่ผ่านการประเมิน เพราะตั้งแต่เกิดเหตุที่หนองบัวลำภู เราก็มีการเฝ้าระวัง โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคัดกรองคนพวกนี้ ก็มีการให้ทำแบบสอบถาม
เขาเป็นคนที่เก็บกด เพื่อนน้อย สารวัตรคนนี้เขามีความเชื่อในเรื่องของพระเจ้า เวลาคุยเขาจะคุยกับคนที่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่กับคนอื่นไม่คุย
กัญชาที่เขาใช้ก็มีส่วนให้เขาหลุด ด้วยตัวเขาเป็นจิตเวชอยู่แล้ว ตำรวจก็สงสัยกันอยู่ ตอนนี้ก็ให้ทางแพทย์เอาเลือดเขาไปตรวจ เพราะในวันนั้นเรายิงแก๊สน้ำตาเข้าไปเขาไม่เป็นอะไรเลย ตอนนี้ก็เลยสงสัยว่ามันมีผลหรือไม่
