
ต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีที่ล้มลงเพราะคมเลื่อย และผืนป่าที่ถูกแผ้วถางในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอำเภอทุ่งสง และอำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งถูกถ่ายได้จากการที่ ฮ. ของหน่วยบินกระทรวงทรัพย์ บินทดลองเครื่อง เมื่อวันที่ 20 ม.ค.66
สภาพป่าที่เห็นถูกแผ้วถาง มีรถแบ็คโฮปรับพื้นที่ ทำเป็นขั้นบันได รวมทั้ง โค่นล้ม ต้นไม้ใหญ่ซึ่งเป็นป่าสมบูรณ์ ถูกตัดโค่นเป็นวงกว้าง กระจายทั่วพื้นที่ หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลและลงพื้นที่ตรวจสอบ
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ สามารถจับผู้กระทำผิดได้แล้ว 2 คน
โดยวันที่ 31 ม.ค.66 นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.อ.ศุภชัย ปรีชามาตร์ รอง ผอ.รมน.จว.นศ. พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) และปลัดจังหวัด แถลงข่าวสรุปผลความคืบหน้าคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าเขาขาว” ว่า สามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ได้ 1 คน พร้อมรถแบคโฮ 1 คัน
พร้อมทั้งระบุว่า ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานทำไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ยึดถือครอบครอง เก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้เร่งรัดขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีให้โดยเร็ว
ต่อมาวันที่ 1 ก.พ.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับผู้ต้องหารายที่สองได้ ชื่อนายสุวรรณ ขอสงวนนามสกุล อยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบล กรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนสอบสวน พบว่า ผู้บุกรุกป่าไม่ใช่กลุ่มนายทุน แต่เป็นกลุ่มบุคคลที่ประสงค์มีที่ดินทำกิน เนื่องจากมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายแปลง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เรื่องนี้ยังต้องติดตามว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับการบุกรุกป่าสงวนและทำลายป่าอีกกี่คน