คืบหน้า คดีมินิบัสทับร่างลูกชายวัย 10 ขวบ แม่วิงวอน ค่ารักษาหลักล้าน แต่ได้รับเยียวยาหลักหมื่น ไร้วี่แววความยุติธรรม
วันนี้ 4 ก.ย. 66 ที่ ส.น.ดินแดง มูลนิธิปวีณา นำโดยนางปวีณา หงสกุล พาแม่และพ่อของเด็กชายวัย 10 ขวบ เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม จากกรณีที่ลูกชาย ถูกรถมินิบัสทับร่างแหลก บาดเจ็บสาหัส ม้ามแตก กระเพาะปัสสวะฉีกขาด กระดูกอุ้งเชิงกรานแตก ต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมา ครอบครัวของน้อง 10 ขวบ ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ใช้ในการเดินทางมาเยี่ยมลูกชาย ไร้เงาคู่กรณีเยียวยา
ล่าสุดทางตำรวจ ได้เชิญฝั่งของคู่กรณี (คนขับ) เข้ามาหารือเจรจา ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล ของน้องวัย 10 ขวบ ซึ่งทางคู่กรณีเองก็เผยว่า ตนมีประกันชั้น 3 ของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการติดต่อให้เข้ามาพูดคุยในวันนี้ด้วย แต่กระนั้นทางฝั่งประกันก็ยังไม่ได้เดินทางเข้ามาร่วมเจรจาตกลงค่าเสียหายแต่อย่างใด
ฝั่งของแม่น้องวัย 10 ขวบเองก็เผยทั้งน้ำตาว่า ที่ผ่านมาระยะเวลาร่วมเดือน ตนนั้นไม่มีกะจิตกะใจทำงานเลย เพราะเป็นห่วงและสงสารลูกน้อยที่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ทำให้ตนนั้นขาดรายได้ หนำซ้ำยังต้องออกค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายทั้งหมด คู่กรณีไม่เคยจ่ายเงินเยียวยาแม้แต่บาทเดียว นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ
ทั้งนี้คุณแม่ยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเหตุคนขับรถคู่กรณียังกลับไปทำงานตามปกติ ไม่มีการเข้ามาคุยหรือเอ่ยคำขอโทษแม้แต่คำเดียวทนับตั้งแต่วันเกิดเหตุ
และค่ารักษาพยาบาลของน้องตอนนี้ สูงเกินกว่าล้านบาทไปแล้ว ในวันพรุ่งนี้น้องจะได้รับการส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.วิมุต และเข้ารับการผ่าตัดรอบที่ 4 ที่ผ่านมาน้องจิตตกอย่างมาก ซึ่งในวันพรุ่งนี้เอง ก็จะมีแพทย์จิตวิทยา เดินทางมาพูดคุยกับน้องวัย 10 ขวบ เพื่อเยียวยาทางด้านจิตใจของเด็กด้วย
อย่างไรก็ตามตอนนี้ทางตำรวจได้มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องที่ต้องเจรจาค่าเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งของประกันรถมินิบัส หรือ ขสมก.เองก็มีส่วนรับผิดชอบ เพราะเป็นผู้ให้สัมปทาน รวมถึงเจ้าของอู่รถ ที่ปล่อยให้เช่ารถมินิบัสคันนี้ ก็จะต้องเดินทางมาเจรจาค่ารักษาและค่าเสียหายเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าของรถมีการให้เงินมาแล้ว 10000 บาท แต่ไม่เพียงพอต่อค่ารักษาอย่างแน่นอน
ท้ายนี้อีจันขอให้น้อง และคุณแม่เข้มแข็ง อีจันเชื่อว่า ความยุติธรรมมีอยู่จริง
