จากเหตุระทึกเมื่อวานนี้(03 ต.ค.66) จนมาสู่เหตุสุดสลด หลังเด็กชาย วัย 14 ควงปืนเข้าไปยิงนักท่องเที่ยว ในห้างฯ สยามพารากอน จนมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 2 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย
วันนี้(4 ต.ค.66) ที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการจัดแถลงการหารือจากเหตุเยาวชนใช้อาวุธปืนก่อความรุนแรง นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกประจำกระทรวง ได้เผยผลการแถลงว่า ในเรื่องของสถานศึกษาของ ด.ช.14 เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนของแบบ community คล้าย HOMESCHOOL ซึ่งมีนักเรียนกว่า800 คน ครู 100 คน เป็นการสอนแบบ 7 ต่อ 1 ถือว่าทั่วถึงในการดูแล
ทาง ศธ.มีหน้าที่ในการอนุมัติการเรียนการสอนโดยพิจารณาจากหลักสูตรแกรนกลาง ว่าหลักสูตรของทางโรงเรียนมีครบถ้วนตาม กลุ่มสาระวิชาหรือไม่ แต่รู้แบบแล้วแต่ผู้จัดการเรียนการสอนกระทรวงจะดูหลักสูตร แต่เนื้อหากับระยะเวลาเป็นของทาง รร.
จากคำถามที่หลายคนสงสัยว่าโรงเรียนที่น้องเรียน ไม่มีเองสารการขอจัดตั้ง ทางโรงเรียนนี้ไม่ได้ขอจัดตั้งเป็นโรงเรียน แต่จัดตั้งเป็น community schools ตอนนี้ยังไม่ด่วนสรุปว่าเป็นความผิดของทางหน่วยงานใด แต่จะใช้เหตุการณ์นี้เป็นการถอดบทเรียนเพื่อจะไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก
ทางกระทรวงศึกษาธิการได้แจ้งว่าเบื้องต้นได้รับข้อมูลจากทางผู้บริหารโรงเรียน ว่าเด็กมีสภาวะทางจิตบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ฟันธงเพราะเป็นเพียงข้อมูลจากผู้บริหารฝ่ายเดียว ไม่ได้โทษสถานศึกษาที่ ศึกษาเอง เพราะเกิดขึ้นได้กับทุกประเภทสถานศึกษา แต่สิ่งที่ ศธ.ต้องทำคือต้องดูแลให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคตในทุกระบบการศึกษา
ตอนนี้ต้องหารือกันว่าหลักสูตรแกนกลางของทางกระทรวงศึกษาธิการเพียงพอกับการดูแลนักเรียนหรือไม่
ในส่วนของความรุนแรงครั้งนี้ ยังไม่ได้สรุปว่าเกิดขึ้นจากเกมแต่เพียงอย่างเดียว เพราะยังมีทั้งสื่อโซเชียลมีเดีย ภาพยนตร์ ที่มีการเผยแพร่ความรุนแรง อยากฝากกับทางผู้ปกครอง ว่าให้ช่วยกันดูแลแนะนำเด็กในการใช้งานสื่อตามช่วงอายุ ไม่ควรปล่อยประละเลย
ในเรื่องของปัญหาจิตในเล็กทาง ทางศธ. ได้พูดถึงทาง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ได้ร่วมเซ็นMouกับ กระทรวงสุขภาพจิตแล้ว เตรียมจัดการดูแลนักเรียนให้ทั่วถึง
