“บูม จักรเพชร” เส้นทางชีวิตจากเด็กหัวรั้น สู่การเป็นเซียนพระยุคใหม่ เปรียบเหมือนชะตาชีวิตขีดเขียนให้เป็นเซียน
นายจิรภัทร ดีพร้อมสุข หรือ บูม อายุ 31 ปี เกิดมาในครอบครัวคนจีน ที่สอนให้รู้คุณค่าของเงินและสิ่งของที่ตัวเองมาได้ อยากได้อะไรต้องสร้างด้วยตัวเอง ทำเอง ซื้อเอง สิ่งเหล่านี้จึงติดตัวเขามาตั้งแต่เด็ก
เส้นทางชีวิตของ บูม เริ่มสัมผัสวงการพระเครื่อง ตั้งแต่อายุได้ 17 ปี พ่อชวนบูมนั่งดู รายการหนึ่งที่มี บอย ท่าพระจันทร์ เป็นแขกรับเชิญ โดยพ่อได้พูดกับบูมว่า “เนี้ยมีเซียนพระคนหนึ่งเล่นพระมีเงินร้อยล้าน” ตอนนั้นบูมมีความคิดว่า “เอ๊ะ มันหาเงินได้จริงเหรอ แล้ววัตถุมงคลพวกนี้ดูยังไง” บูมเก็บความสงสัยไว้ในใจ
จนชีวิตเขาได้สัมผัสผ้าเหลืองครั้งแรก เมื่อตอน ม.5 บูมเกเรไปตีรันฟันแทงจนออกข่าวใหญ่โต โรงเรียนเลยส่งบูมและเพื่อนไปบวชเป็นเณร เพื่อดัดนิสัยความเกเรเลือดร้อน ช่วงเวลาที่กำลังบวรเป็นเณรมีพระอาจารย์ท่านหนึ่ง สอนให้เอาเมล็ดผลไม้มากำกับไว้ในมือตลอดช่วงเวลาที่สวดมนต์ ไหว้พระ หรือนั่งสมาธิ แต่ด้วยความที่บูมไม่เชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ทำส่งๆ ไปอย่างนั้น
จนเวลาผ่านไป 1 ปี ช่วงนั้นบูมโดนเพื่อนแกล้งมาก ทั้งตบหัว เล่นแรงๆ เหมือนไม่ให้เกียรติ แต่เพื่อนคนอื่นกลับไม่ได้โดนแบบบูม บูมเลยรู้สึกว่าอยากจะมีพระเครื่องหรือวัตถุมงคลสักชิ้นหนึ่งเผื่อเพื่อนๆ จะเกรงใจบ้างเวลาเกรง
บูม เสิร์ชอินเตอร์เน็ตหาพระที่ตัวเองชอบ จนได้พระมาองค์หนึ่ง แต่บูมก็ยังมีความคิดว่า “การที่จะห้อยพระเครื่องสักองค์หนึ่ง เราต้องแลกอะไรสักอย่าง ถ้าเอามาแขวนเลยแล้วดี มันก็คงดีกันทั่วโลกแล้วละ” ด้วยความที่เคยบวชทเณรท่องได้บางไม่ได้บาง แต่สิ่งเหล่านั้นก็ยังจำอยู่ในหัวสมอง บูมจึงนั่งกำกับคาถา พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
หลังจากนั้น สิ่งที่บูมต้องการก็เกิดขึ้น เพื่อนเริ่มเกรงใจ และให้เกียรติบูมมากขึ้น จนบูมรู้สึกว่า “น่าค้นหาจังเลย”
บูม ตั้งหาตั้งตาศึกษาค้นหาและเรียนรู้พระเครื่อง จนมีความรู้มากขึ้นเก็บเงินเก็บทองซื้อเหรียญหนึ่งที่ชื่อว่า “เหรียญจักรเพชร” แล้วก็ตั้งชื่อตัวเองใหม่ว่า “บูม จักรเพชร” ตลอดมา จนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัย บูม รับปริญญาพร้อมกับเงินที่เขาหามาได้ระหว่างที่เรียนกว่า 1 ล้านบาท และลุยเดินหน้าสู่วงการเซียนพระอย่างเต็มตัว
แต่ก็อย่างที่หลายคนคงเคยได้ยินกัน เซียนพระทุกคนต้องโดนพระเก๊มาก่อน “บูม จักรเพชร” จะไปเหลืออะไร โดนเหมือนกันและโดนถึง 2 ครั้ง สูญเงินไป 2 ล้าน 3 แสนบาท จากเส้นทางเซียนกำลังไหลๆ ต้องมาสะดุด แต่บูมก็ไม่ถอยครับ เก็บเรื่องราวมาเป็นบทเรียนสอนตัวเอง พัฒนาตัวเอง ว่าอย่าผิดพลาดอีก
มาถึงตอนท้าน อีจัน ก็อดถามไม่ได้ว่า “ถ้ามองย้อนกลับไปตอนที่ดู พี่บอย ท่าพระจันทร์ พี่บูมเคยคิดไหมว่าวันนี้เรากำลังจะเป็นแบบเขา”
บูม จักรเพชร ตอบว่า “ผมไม่เคยคิดเลย ว่าจะมาถึงจุดนี้ และวันนั้นก็ไม่คิดว่า ตัวเองจะเข้ามาเป็นเซียนพระของจริง เราดูว่าเขาหาเงินได้เป็นไอดอล แต่ถามว่าจะได้ถึงเขาไหม ผมไม่เคยต้องไปมองแบบนั้น”
“วงการพระก็เหมือนการที่จะต้องคบคนและใช้ชีวิตไปด้วย ผมได้ดีในวงการพระเพราะว่าพรรคพวกผมดีด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้คนเป็นเซียนพระหรือคนที่เข้ามาเล่นพระก็ต้องเป็นคนดีด้วย ถ้าจะมาใช้วิชามารเสียอย่าเดียวผมว่ายินไม่ได้”
