คาใจ! สองแม่ลูก บุรีรัมย์ ยื่นขอไฟฟ้า นานนับปี ยังไร้วี่แวว

สองแม่ลูก บุรีรัมย์ ยื่นขอไฟฟ้า นานนับปี ยังไร้วี่แวว การอนุมัติติดตั้ง เหลือเพียงหลังเดียวจากทั้งหมู่บ้าน แม้เสาไฟตั้งอยู่หน้าบ้าน

นางพวงพยอม สีดา อายุ 52 ปี พร้อมด้วย น.ส.ศุภลักษณ์ สีดา อายุ 29 ปี สองแม่ลูกชาวบ้านหนองกระทุ่ม ตำบลโคกสนวน อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชน หลังจากไปยื่นเอกสารดำเนินการขอไฟฟ้าเข้าบ้านพักของตัวเอง เป็นเวลานานนับปี แต่ยังไร้วี่แววการอนุมัติติดตั้ง ทั้งที่เสาไฟตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าบ้าน

โดยสองแม่ลูก ระบุว่า อบต.สนวน ไม่ออกหนังสือรับรองให้ โดยอ้างว่า เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ จึงไม่สามารถออกหนังสือรับรองได้ จึงสร้างความประหลาดใจ และสับสนให้กับสองแม่ลูก เนื่องจากชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้าน รวมถึงบ้านของผู้ใหญ่บ้านเอง ก็ถือว่าตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณะประโยชน์แปลงเดียวกัน

ซึ่งทุกคนก็ได้รับการจัดสรร จากทางภาครัฐ ให้ปลูกที่อยู่อาศัย และทำกินในที่ดินดังกล่าวตามโครงการ “บริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ ที่มีการบุกรุก เพื่อขจัดความยากจน และพัฒนาชนบท แปลงทำเลเลี้ยงสัตว์บ้านประคอง” แล้ว

โดยทุกหลังคาเรือน สามารถออกบ้านเลขที่ ยื่นขอน้ำประปา และขอไฟฟ้าได้ตามปกติ เหลือเพียงหลังเดียวเท่านั้น ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งที่ก็ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน และมีบ้านเลขที่ถูกต้อง แต่ทำไมถึงขอไฟฟ้าไม่ได้ เหมือนบ้านหลังอื่น จึงอยากให้ทาง อบต.ออกมาชี้แจง รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบและช่วยเหลือ

ขณะที่นางสำรวย คุระจอก ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองกระทุ่ม บอกว่า ที่ดินที่ชาวบ้านอยู่อาศัยและทำกินส่วนใหญ่เดิมเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์ ที่สมัยปู่ ย่า ตายาย มาจับจองเพื่อทำกินเนื่องจากยากจนไม่มีที่ทำกินเป็นของตัวเอง ต่อมารัฐได้ประกาศเป็นที่ นสล. และมีโครงการจัดสรรให้ชาวบ้านยากจนได้อยู่อาศัยและทำกินอย่างถูกต้อง โดยชาวบ้านก็สามารถออกบ้านเลขที่ ขอน้ำ ขอไฟได้ตามปกติ แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรบ้านของ น.ส.ศุภลักษณ์ ถึงแม่สามารถขอใช้ไฟฟ้าได้ ซึ่งตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านก็พยายามประสานทั้งทางอำเภอ และการไฟฟ้าให้ก็ได้ให้คำแนะนำมาเป็นอย่างดี และนางศุภลักษณ์ ก็ทำตามขั้นตอนแล้ว แต่ติดอยู่แค่ อบต.ไม่ยอมออกหนังสือรับรองให้ จึงไม่มีหนังสือรับรองไปยื่นขอที่การไฟฟ้าได้ ก็เห็นใจลูกบ้าน จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือด้วย

ด้านนายสรสิทธิ์ สิทธิเวช ปลัด อบต.โคกสนวน ชี้แจงว่า ในกรณีของ น.ส.ศุภลักษณ์ นั้น น่าจะเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันมากกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ นางพวงพะยอม ได้มายื่นเรื่องที่ อบต. เพื่อขอหนังสือรับรองไปขอไฟฟ้า เข้าบ้านของลูกสาว

ซึ่งลูกสาวไม่ได้มาด้วย แต่ก็ได้แนะนำ ให้ผู้เป็นแม่ ไปย้ายชื่อของแม่เข้าเป็นเจ้าบ้านหลังที่ลูกสาวอยู่อาศัย เพื่อยื่นเรื่องขอไฟฟ้าก่อน เนื่องจากแม่มีชื่อในโครงการที่จัดจัดสรรให้ หลังจากนั้นทาง อบต. จึงจะสามารถดำเนินการให้ได้ตามระเบียบ

แต่หากเจ้าบ้านเป็นชื่อลูกสาว ซึ่งไม่ได้มีชื่ออยู่ในโครงการฯ อบต.ก็ไม่สามารถออกหนังรับรองได้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะยังมีอีกหลายครัวเรือนเจอปัญหาในลักษณะเดียวกัน อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการร้องเรียนทาง อบต.ก็จะลงพื้นที่ไปชี้แจงทำความเข้าใจแล้ว