จดจำชื่อไว้ สมัญญา นิลธง วีรบุรุษผู้กล้า อาสาดับเพลิง ตึกถล่ม กฤษดานคร31

แม้กายจากไป แต่ความดียังคงอยู่ สมัญญา นิลธง วีรบุรุษผู้กล้า อาสาดับเพลิง ตึกถล่ม กฤษดานคร31

“ไม่มีลางบอกเหตุอะไรเลย มารู้อีกทีคือเสียงวอจากที่บ้าน ลูกเรียกพ่อและพี่อีก 2 คนที่อยู่ใต้ซากตึกถล่ม แต่ลูกบอกไม่มีใครตอบเลย นั่นคือวินาทีที่หัวใจแทบสลาย”

นี่คือเสียงจากภรรยาของพี่ สมัญญา นิลธง วีรบุรุษนักดับเพลิง

ผู้เสียเสียสละชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้อาคารกฤษดานคร31 จน ตึกถล่มทับร่างอาสาสมัครดับเพลิงเสียชีวิต 4 ราย และผู้อยู่อาศัยอีก 1 ราย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านม

พี่สมัญญา นิลธง เสาหลักของบ้านวัย 48 ปี เเต่เวลาชีวิต 16 ปี ที่ผ่านมาของเขา ได้อุทิศให้สังคมไปเเล้ว เขาคนนี้ อุทิศทั้งใจและกาย เป็นอาสาสมัครของสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย สังกัดหน่วยนครธน ธน.27-00

เขาเริ่มทำงานนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2548 จนถึงปัจจุบัน ร่วม 16 ปี เขาไม่เคยบกพร่องในหน้าที่ ทันทีที่มีเสียงวอดังขึ้น ไม่ว่าตอนนั้นทำอะไร เขาจะปรี่ออกไปช่วยบรรเทาทุกข์นั้นทันที ไม่ว่าทุกข์นั้นจะใกล้ไกล จะหนักเบาเเค่ไหนก็ตาม เขาเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการเข้าเผชิญเพลิงไหม้เเละช่วยงานในด้านบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ไม่เคยเกี่ยงงาน

เเม้กระทั่งเมื่อวานนี้ (3 เม.ย.64) วันสุดท้ายของชีวิต พี่สมัญญาก็ทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย ไม่มีลางบอกเหตุใดๆ ไม่มีเสียงสั่งลาใดๆ แม้แต่คำเดียว

เสียงวอบอกเหตุ สามีรีบปลุกลูกชายไปที่เกิดเหตุ ทุกอย่างดำเนินต่อไปปกติเหมือนที่ผ่านมา เเต่หัวใจคนอยู่เเทบขาดดิ้น เมื่อเสียงวอที่บ้านบอกว่าอาคารถล่ม เเละหนึ่งในนั้นมีร่างของพี่สมัญญาติดอยู่ ไม่มีเสียงตอบรับออกมา เเม้ลูกชายจะขานชื่อพ่อดังเเค่ไหนก็ตาม

สุดท้ายปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ชายผู้เสียสละคนนี้ ได้จากไปแล้ว…

ผ่านมา 1 วันของการสูญเสีย

พี่นิตยา โกยทอง ภรรยาของพี่สมัญญาเสียใจแทบทนไม่ได้ ก่อนพรั่งพรูด้วยความภูมิใจว่า เธอภูมิใจในตัวสามี ที่ได้ทำหน้าที่ ที่พวกเขารักอย่างดีที่สุด เต็มความสามารถจนถึงวินาทีสุดท้าย เธอสัญญาจะดูแลลูกชายและทุกคนรวมถึงงานที่สามีสร้างไว้ให้ดีที่สุด

ในขณะที่น้องสาว อย่างพี่ สุภาภรณ์ ท้วมทอง อายุ 46 ปี หรือ พี่น้องเล็ก ญาติของทั้ง 3 วีรบุรุษครอบครัวอาสา เล่าว่า ครอบครัวเราเป็นอาสาทั้งบ้าน มีเหตุที่ไหนก็จะไปพร้อมกัน จะระมัดระวังตลอด เพราะทุกครั้งก้าวออกจากบ้าน ทุกคนจะเป็นห่วงกันหมด เเต่ทุกอย่างมันก็มีการพลาดได้

“ปกติพี่ชายเรา จะไม่เข้าไปหรอก เขาจะคุมเครื่อง เเต่พอมีคนร้อง เขาเลยเข้าไปในตึก เเต่ตอนเข้าไป ตึกมันเริ่มถล่ม เเล้วเขาก็ออกไม่ทัน…”

พี่น้องเล็ก เล่าต่อ ใจแทบสลาย ตอนที่รู้เรื่อง เสียใจมาก พูดไม่ถูก เพราะคนที่มาคือคนในครอบครัวทั้งหมดเลย เนื้อตัวมันสั่นไปหมด ตอนนั้นยังมีความหวังว่าพี่ชายยังอยู่ ภาวนาอย่างเดียว คนของเราต้องรอดนะ ต้องไม่เป็นอะไร

เเต่พอมาถึงที่เกิดเหตุเเล้วมันไม่ใช่เลย…ไม่มีใครรอด

เพราะพอมองไปแล้ว ก็เห็นว่าพี่นั่งอยู่ข้างใน เเต่ไม่กล้ามองเยอะ เพราะยังทำใจไม่ได้

วินาทีนั้นเสียงใจมาก เพราะว่าเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่จะดูแลภรรยาเเล้วก็ลูก ซึ่งครอบครัวของพี่ชาย ภรรยาไม่ได้ทำงาน เป็นเเม่บ้านดูแลลูกชาย 2 คน คนโต ปีนี้ขึ้น ปวช.ปี 3 คนที่ 2 ปีนี้ขึ้น ม.3

เเต่พอเสาหลักเเตกไปแล้ว มันไม่มีอะไรเหลือเเล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะเดินหน้ากันอย่างไรต่อไป

สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรมนั้น จัดขึ้นในวันที่ 4-9 เมษายน 2564 ก่อนมีจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 10 เมษายน 2564

เเม้ร่างกายจะจากไป เเต่คุณความดีของเขาจะคงอยู่ตลอดไป จดจำเขาไว้ #สมัญญานิลธง

อีจันขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอสดุดีความกล้าหาญของวีรบุรุษนักดับเพลิง อีกครั้งค่ะ