กรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิดนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 และมีมติให้ออกจากราชการ ปมเผาบ้านปู่คออี้ เมื่อปี พ.ศ. 2554 นั้น
ป.ป.ท. ฟัน ให้ ชัยวัฒน์ ออกจากราชการ ปมเผาบ้านปู่คออี้ 2554ล่าสุดวันนี้ (1 มี.ค.64) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้เดินทางไปที่ ป.ป.ท. เขต 7 จ.นครปฐม เพื่อระบทราบคำสั่งเเละขอดูรายละเอียดเพิ่มเติม หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปที่ ปปป. ต่อ เพื่อเเจ้งความเอาผิดบอร์ดของ ป.ป.ท. ที่ได้มีมติพิจารณาทำให้ตนเเละครอบครัวเสียหาย
ซึ่งนายชัยวัฒน์เปิดใจกับอีจันว่า เมื่อรู้ว่าจะต้องถูกออกจากราชการครอบครัว และเพื่อนๆ ก็เขามาปลอบใจ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้มแข็งได้ทุกเรื่อง ตอนนี้เลยคำว่าท้อมาแล้ว เเละรู้สึกว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเรื่องนี้เลย เป็นการชี้มูลความผิดที่ไม่ได้ผ่านการไต่สวน สืบสวน
“การที่คณะกรรมการ ป.ป.ท. ชี้มูลตนแบบนี้ คณะกรรมการเป็นใคร มีความเชี่ยวชาญ หรือรู้เรื่องป่าไม้มากแค่ไหน ยอมรับรู้สึกแย่มากตอนนี้ ถูกกระทำซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เหมือนกับจงใจจะแกล้งให้หยุดชีวิตราชการ”
ส่วนในกรณีของปู่คออี้ นายชัยวัฒน์ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนเผาบ้าน เพราะบ้านของปู่คออี้ไม่ได้อยู่ในพิกัดของภารกิจเลย ภาพที่ออกมา เจ้าหน้าที่กำลังอุ้มปู่คออี้ลงจากบ้าน ภาพนั้น คือ ปู่คออี้ร้องขอมา ให้ช่วยพาไปรักษาตา ตนก็ได้นำผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่เข้าไปรับตามพิกัดที่ส่งมาให้ นักบินที่บินสำรวจบอกว่าเจอพิกัดอยู่แถวห้วยสามแพร่ง เเต่จุดที่เผา เป็นจุดคิดขอบเเนวชายเเดน และจนถึงตอนนี้ ตนก็ยังไม่รู้เลยว่าบ้านของปู่คออี้อยู่ที่ไหน
นายชัยวัฒน์ยืนยัน จะสู้ต่อ หากมีโอกาสให้สู้ก็จะสู้จนถึงที่สุด