ต่างด้าว นอนขดตัว ซุกท้ายรถแท็กซี่ หนีออกจากพื้นที่ ในไทย หวัง ไปหาพ่อ

ช่วงนี้ระบาดยิ่งกว่าไวรัส คนไทย พาต่างด้าวลอบเข้าไทย

24 พ.ย. 64 ทหารประจำจุดตรวจศิลาสลัก หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหาราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ร่วมกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระนอง จับพิรุธแท็กซี่รายหนึ่งได้ ขณะวิ่งรถผ่านจุดตรวจ เส้นทางขาออกจากจังหวัดระนอง เจ้าหน้าที่จึงสกัดรถ และขออนุญาตค้นรถ

คนขับเป็นชายวัย 29 ปี ท่าทางมีพิรุธ

และเป็นไปตามคาดของเจ้าหน้าที่

ภายในฝากระโปรงหลังของรถ มีคนนอนขดตัวกอดกระเป๋าเสื้อผ้าอยู่

จึงเรียกลงมาตรวจสอบ เป็นชายชาวเมียนมา อายุ 22 ปี มีหนังสือผ่านแดนชั่วคราว

จากการสอบถาม คนขับแท็กซี่ ได้ความว่า

มีผู้โดยสารจากกรุงเทพฯ เหมารถตน มาส่งที่ จ.ระนอง

ซึ่งขากลับ มีคนติดต่อผ่านแอปพลิเคชั่น ให้ไปรับ ชาวเมียนมา ในตัวเมืองระนอง มีค่าจ้าง 7,000 บาท

โดยช่วงแรกก็นั่งในรถมาด้วยกัน แต่พอใกล้ถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง จึงให้ ผู้โดยสาร ไปซ่อนใต้ฝากระโปรงหลังรถ

ส่วนชายชาวเมียนมาร์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเป็นลูกจ้างที่โรงงานย่าน อ.เมือง จ.ระนอง 5 ปีแล้ว

ที่ว่าจ้างรถแท็กซี่ เพราะต้องการเดินทางไปหาพ่อ ที่ จ.นนทบุรีเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะลักลอบออกนอกเขตด้วยเหตุอื่น

พร้อมแสดงหนังสือผ่านแดนชั่วคราวต่อเจ้าหน้าที่

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายให้ ชาวเมียนมาร์ ทราบถึงข้อกฎหมายว่า หนังสือเดินทางดังกล่าว อนุญาตให้แรงงานต่างด้าว อยู่ในเฉพาะเขตอำเภอเมืองระนองเท่านั้น ห้ามเคลื่อนย้าย

ซึ่งเจ้าหน้าที่ บอกกับทีมข่าวอีจันว่า

แม้ว่าจะเห็นใจแรงงานตางด้าวคนนี้มากแค่ไหน แต่ก็ต้องดำเนินงานไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ในส่วนของคนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ พยายามสอบถามว่า ใครเป็นผู้ว่าจ้างให้นำแรงงานต่างด้าวคนนี้ออกนอกพื้นที่

แต่คนขับ กลับบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ

และการที่ซุกซ่อนแรงงานต่างด้าวไว้ท้ายกระโปรงรถ ก็เป็นการแสดงเจตนาชัดเจน ในการพยายามลักลอบนำแรงงานต่างด้าวออกนอกพื้นที่

เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่ง สภ.ปากจั่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป