ททท. เดินหน้าเตรียมพร้อม เปิดประเทศ ท่องเที่ยว นำร่อง ภูเก็ต SandBox จังหวัดแรก

ททท. เดินหน้าเตรียมพร้อม เปิดประเทศ ดึง นักท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ภูเก็ต SandBox นำร่องจังหวัดแรก ตามด้วย 3 เกาะยอดฮิต สมุย พะงัน เต่า

วันที่ 18 มิ.ย.64 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวผ่านซูม เรื่อง การเดินหน้าเตรียมความพร้อมเปิดประเทศ Moving Forward to Reopen Thailand เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า ตอนนี้มีแผนการในการเปิดประเทศอยู่ 2 แผนการ แผนแรก คือ แผนการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้ขออนุมัติจาก สปศ. ไปแล้วก็คือไทม์ไลน์ที่เราตั้งไว้
คือ วันที่ 1 กรกฎาคม จะเปิด Sand Box ที่จังหวัดภูเก็ต พอถึงวันที่ 1 ต.ค.64 ก็จะเปิดให้มีการท่องเที่ยวโดยที่นักท่องเที่ยวเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัวใน 10 จังหวัด เมื่อ 2-3 วันที่แล้ว พวกเราคงจะเห็นว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าประเทศไทยต้องพร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว เดินทางมาโดยไม่ต้องกักตัวภายใน 120 วัน

ตนมั่นใจว่าความพร้อมอย่างแรกเลย ก็คือ เรื่องของวัคซีน ก่อน 120 วัน อย่างน้อยที่สุด คนไทย 50 ล้านคน ต้องได้รับวัคซีนโดสแรก ถ้าเป็นแอสตราเซเนกา 1 โดส หลัง 14 วัน มีภูมิคุ้มกัน เราสามารถเปิดประเทศได้ แต่ถ้าเป็นซิโนแวค
ซิโนฟาร์ม ต้องได้รับ 2 โดส แต่ทั้ง 2 โดสนี่ จะต้องใช้ระยะเวลาสั้น ห่างกัน 3 สัปดาห์

ซึ่งเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 มีการประชุม ศบค. นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ใน 120 วันเ ที่ได้แถลงออกไป หมายความว่าใน 77 จังหวัด จังหวัดไหนพร้อมสามารถเปิดได้เลย หมายความว่าจังหวัดไหนที่มีการติดเชื้อไม่ถึง 20 คน หมายความว่าเปิดเฉพาะจังหวัดมีการติดเชื้อน้อย

สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ คนไทย ต้องได้รับวัคซีนและมีความปลอดภัยจากโควิดก่อน ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเข้ามา

ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่า ททท. กล่าว การเปิดประเทศจะต้องเริ่มต้นพื้นที่นำร่องก่อน โดยแบ่งแนวทางเปิดประเทศ 2 แบบ คือ พื้นที่เกาะ และพื้นที่ภาคพื้นดิน โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ต เดินทางภายในจังหวัดภูเก็ตทั้งทางบกและทางน้ำ จะเริ่ม 1 ก.ค.64 เรียกว่าเป็นภูเก็ต Sand Box หลังจากนั้นจะเป็นพื้นที่ สมุย พะงัน เกาะเต่า โดยมีความแตกต่างกัน คือเป็น 0 + 3 + 4 + 7 จะเริ่มต้นในวันที่ 15 กรกฎาคม เป็นต้นไป

ภายในเดือนสิงหาคม ก็จะมีการเชื่อมโยงจากภูเก็ตไปยังกระบี่ เชื่อมโยงภูเก็ตไปยังพังงา จากภูเก็ตไปที่พีพี ไปยังไหง
ไปที่ไร่เลย์ เขาหลัก เกาะยาว ซึ่งการเปิดพื้นที่นี้เป็นการให้พื้นที่อื่น ๆ ได้ศึกษาตัวอย่าง

ส่วนพื้นที่ภาคพื้นดิน คาดในเดือนกันยายน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่ใช่ทั้งจังหวัด จะเป็นในส่วนของอำเภอเมือง
แม่ริม แม่แตง และดอยเต่า พัทยา บางละมุง แล้วก็สัตหีบ บุรีรัมย์ จะมีอำเภอเมืองและสนามช้าง

การเปิดประเทศในเดือนตุลาคม เป็นการทยอยเปิดตามพื้นที่ที่มีความพร้อม ทั้งความพร้อมในสเรื่องการรับวัคซีน ในเรื่องประชาชน ว่ายินดีที่จะเปิดรับท่องเที่ยวหรือไม่

ส่วนหลักการที่ ศบค.เห็นชอบในวันที่ 18 มิถุนายน คือ SOP ว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาอย่างไรบ้าง ซึ่งหลักการการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมแค่ 3 เกาะ สมุย พะงัน เกาะเต่า สิ่งที่สำคัญก็คือ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือความเสี่ยงปานกลาง ซึ่งเป็นไปตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ยกตัวอย่างประเทศ จีน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย ไต้หวัน อิสราเอล อังกฤษ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ ออสเตรีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน สวิตเซอร์แลนด์ ตรุกี ยูเออี การ์ตา คูเวต สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

กรณีที่เป็นชาวต่างชาติจะต้องพำนักอยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและปานกลางอย่างน้อย 21 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย

กรณีคนไทยและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทย จะต้องเดินทางกลับมาจากประเทศเสี่ยงต่ำ และปานกลางเช่นเดียวกัน

หากเดินทางไปนอกประเทศ เพื่อไปรับวัคซีน ก็ต้องรอให้ครบ 14 วัน พร้อมเอกสารยืนยัน กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ
ไม่ต้องฉีดวัดซิน สามารถเดินทางพร้อมผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนได้เลย

กรณีที่เป็นผู้ติดเชื้อ ต้องฉีดวัคซีนครบตามประเภท อย่างน้อย 14 วันเหมือนกัน และจะต้องมีการตรวจโควิดภายใน
72 ชั่วโมง ก่อนถึงประเทศไทยและที่สำคัญต้องมีประกันสุขภาพด้วย

ผู้ว่า ททท. กล่าวต่อ ที่พักของ จ.ภูเก็ต จะได้รับตราสัญลักษณ์ SHA Plus นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาภูเก็ตจะต้องอยู่อย่างน้อย 14 คืน หากน้อยกว่า 14 คืน ต้องเป็นเที่ยวบินตรงออกราชอาณาจักรเท่านั้น ห้ามเปลี่ยนเครื่องที่ กทม.

ขณะที่สมุย 1-3 คืนแรก สามารถออกจากห้องพักได้ แต่ไม่สามารถออกจากโรงแรมได้ คืนที่ 4-7 สามารถเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางที่กำหนดในพื้นที่สมุยได้ คืนที่ 8-14 สามารถเดินทางท่องเที่ยวระหว่างเกาะได้

หากในกรณีที่ต้องการเดินทางไปพื้นที่อื่นในประเทศไทย จะต้องอยู่สถานที่กำหนด อย่างน้อย 14 คืน พร้อมทั้งต้องมีหลักฐานการควบคุมโรคที่จังหวัดปลายทางกำหนด

นอกจากนี้ จะต้องมีการเตรียมความพร้อมประชาชนในพื้นที่ ในด้านต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

เมื่อมาถึงช่วงคำถาม ท่านผู้ว่าการ ททท. ได้ตอบคำถาม เกี่ยวกับประเด็น ค่าใช้จ่ายของการสวอบ 3 ครั้งของนักท่องเที่ยว ว่ารัฐจะเป็นผู้รับผิดชบอในส่วนนี้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางที่ประชุมกำลังหารือกันอยู่ เพราะ ค่าใช้จ่ายต่อคน อยู่ที่ประมาณ 2,500 – 3,000 บาท หรืออาจจะน้อยกว่า แต่หากอะไรที่เป็นหลักฐานที่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องใช้กลับประเทศต้นทาง เรื่องนี้นักท่องเที่ยวอาจจะต้องรับผิดชอบเอง แต่ในหลายประเทศรัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนให้

ส่วนกรณีเกาะสมุย เกาะเต่า และเกาะพะงัน ที่จะเริ่มเปิดวันที่ 15 กรกฎาคม ทางศบค.ได้อนุมัติในหลักการแล้ว

ภูเก็ต Sandbox จะมีการอนุมัติอย่างเป็นทางการและประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ภูเก็ตในวันที่ 25 มิ.ย.นี้หรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ หากครม.อนุมัติก็จะนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป