ประยุทธ์ ส่งสัญญาณ อาจต่อโครงการ เราชนะ – คนละครึ่ง

อาจจะมีเฟสต่อไป! ประยุทธ์ ส่งสัญญาณ มีความเป็นไปได้โครงการคนละครึ่ง – เราชนะ อาจจะเปิดให้ลงทะเบียนอีก

จากกรณี ทางรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เราชนะ และ คนละครึ่ง เพื่อให้การเยียวยากับประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี โครงการคนละครึ่ง จะสิ้นสุดโครงการวันที่ 31 มี.ค. และ โครงการเราชนะ สิ้นสุดโครงการวันที่ 31 พ.ค. ที่จะถึงนี้นั้น

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการเผยแพร่ข้อความผ่าน แฟนเพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-O-Cha ซึ่งเป็นภาพการประชุมร่วมกับทีมเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า

“ ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22มี.ค.) ได้มีการประชุมหารือมาตรการฟื้นฟู และ การรักษาสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงมาตรการ soft loan และ asset warehousingนอกจากนี้ยังได้ติดตามผลการดำเนินการโครงการ “เราชนะ” และโครงการ “คนละครึ่ง” และพิจารณาการดำเนินการในเฟสต่อไป ปัจจัยสำคัญคือยังตรวจพบว่ามีการโกงเกิดขึ้น ทั้งในส่วนของบุคคลและผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะหาหนทางแก้ไข รวมไปถึงการดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด เราต้องไม่ยอมให้คนส่วนน้อยมาทำลายสิ่งดีๆ ของคนส่วนใหญ่ในช่วงวิกฤตนี้ครับ #รวมไทยสร้างชาติ “

อย่างไรก็ดี ในส่วนของภาพรวมโครงการที่มีสิทธิได้ไปต่อในเฟสถัดไป เช่น โครงการเราชนะ ข้อมูล ณ วันที่ 22 มีนาคม 2564 ดังนี้

1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 58,234 ล้านบาท

2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.7 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 82,681 ล้านบาทและ

3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 6,886 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.4 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 147,801 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ