ยุติธรรม เปิดปฏิบัติการ พาลีปราบยา จับมือ ธนาคาร ติดตามเส้นทางการเงิน สนองนโยบาย นายกรัฐมนตรี

ยุติธรรม เปิดปฏิบัติการ พาลีปราบยา พร้อมตั้งคณะทำงาน ผนึกกำลัง ธนาคาร – สถาบันการเงิน ช่วยติดตามเส้นทางธุรกรรมเครือข่าย

เปิดแผนงานใหม่! ที่กระทรวงยุติธรรม มีการจัดงาน ยุติธรรมผลึกกำลังสถาบันการเงิน ตามติดเส้นทางการเงินผู้ค้ายาเสพติดโดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง

รวมทั้งมี นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย นายฉัตรชัย ศิริไล ประธานสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และผู้แทนจากธนาคารและสภาบันการเงินต่างๆ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ร่วมงาน

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า จากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในเรื่องการป้องกันและปราบรามยาเสพติด รัฐบาลได้ตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยมีตนเป็นประธาน และมีหน่วยงานต่างๆร่วมเป็นกรรมการ มีการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้กำหนดปฏิบัติการ พาลีปราบยา โดยการดำเนินการมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ 16 คณะทำงานเพื่อทำงานในปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการนำร่องไปแล้ว โดยกระทรวงยุติธรรมได้ใช้สัญลักษณ์ รูปพญาพาลีสีเขียว เหยียบเหนือตราสิงโตคู่สีแดง ซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายปราบปรามที่อยู่เหนือขบวนการค้ายาเสพติด และจะมีการผนึกกำลังกับธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมเข้าใจธนาคารและสถาบันการเงิน ในการรักษาความลับของลูกค้า

“ดังนั้นคณะกรรมการจะขอข้อมูลเท่าที่จำเป็น และขอให้ท่านจัดลำดับความสำคัญ ทั้งนี้ผมขอขอบคุณ สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมกันผนึกกำลัง ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือจะทำลายเส้นทางการเงินของเครือข่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในขบวนการ เพื่อทำให้ประเทศชาติพ้นภัยยาเสพติดและพัฒนาได้ต่อไป”นายสมศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้กล่าวอีก ในการยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่าเงินอยู่ที่ไหน ใครส่งให้ใคร และต้องดูบัญชีเส้นทางและต้องตรวจสอบให้พบ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ตำรวจและดีเอสไอ จับกุมได้แค่ตัวยากับผู้ครอบครองและขนส่ง ขาดข้อมูลที่หลากหลาย ไม่รู้ว่าเจ้าของธุรกรรมรายใหญ่คือใคร

ดังนั้นวันนี้เราจึงได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการสืบสวนสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติด ประกอบด้วย ป.ป.ส. ดีเอสไอ บช.ปส.และธนาคารต่างๆ โดยเอกสารต่างๆจะใช้เครื่องหมาย พาลีปราบยา เพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูลการเงินและธุรกรรมต่างๆสาวไปถึงผู้บงการหรือผู้ค้ายารายใหญ่ เราจึงต้องตั้งคณะทำงานนี้เพื่อทำงานร่วมกันและใช้เทคโนโลยีติดตาม เพื่อให้เป้าหมายในการยึดทรัพย์จากเดิมปีละ 600 ล้านบาทเป็นไปตามเป้าหมายคือ 6,000 ล้านบาท ส่วนสกุลเงินดิจิทัลที่เริ่มมีการใช้ในเครือข่ายยาเสพติดบ้างแล้วนั้น เราได้มีการศึกษาข้อมูลไว้บ้างแล้ว