วันนี้ (28 มี.ค.64) บรรยากาศวันเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีในหลายจังหวัดเต็มไปด้วยความคึกคัก ผู้คนที่มีสิทธิ์ต่างเดินทางมาเลือกตั้ง ท่ามกลางการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ที่ จ.เชียงใหม่ ก็เช่นเดียวกัน ชาวเชียงใหม่ต่างตื่นตัวออกบ้านไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเทศบาลในรอบ 6 ปี !
ด้านนางวงเดือน อายุ 84 ปี จูงมือ น.ส.ดารณีนุช ลูกสาววัย 62 ปี (พิการทางสายตา)ไปที่หน่วยเลือกตั้งภายในวัดแม่ริม ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีของเทศบาลตำบลแม่ริมตามความตั้งใจ โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งคอยอำนวยความสะดวกและจัดเตรียมบัตรทาบสำหรับผู้พิการทางสายตาให้
นอกจากนี้ที่หน่วยเลือกตั้งเดียวกันยังมีผู้สูงอายุและผู้พิการพากันมาใช้สิทธิ์กันอย่างคึกคัก อย่างเช่น นางสมบูรณ์ อายุ 65 ปี ที่แม้จะเดินด้วยความยากลำบากต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง แต่ก็เดินทางมาใช้สิทธิ รวมทั้งนายชัยวัฒน์ อายุ 57 ปี ผู้พิการที่เดินไม่ได้ที่ให้แม่ช่วยเข็นรถเข็นมาเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง
ด้านนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งนี้ เผยว่า จากรายงานทราบว่าตลอดช่วงเช้ามีประชาชนพากันไปใช้สิทธิ์ตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ จำนวนมาก สะท้อนถึงความตื่นตัว และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ก็ไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ก่อนหน้านี้มีเรื่องร้องเรียนมาบ้าง 5 เรื่อง ซึ่งทาง กกต.จะไปดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
ในขณะที่ จ.อุดรธานี ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 13 เขต 2 ในโรงเรียนคุณากรณ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายคมสันต์ โนนทิง ประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง พร้อมกับตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้งควบคุมตัว น.ส.มนิดา อายุ 57 ปี ชาวบ้าน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังจากมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และได้ลงคะแนนในบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครอุดรธานี แต่ฉีกบัตรเลือกตั้งนายกเทศบาลนครอุดรธานี จึงได้แจ้งไปยังนายกิตติคุณ ศิริโยธา ผอ.กกต.จ.อุดรธานี และตำรวจมาตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก
ด้าน น.ส.มนิดา ให้การว่า ตนเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งตามปกติ และได้รับบัตรเลือกตั้งทั้งสองใบ ซึ่งใบสมาชิกสภาเทศบาลนครอุดรธานีนั้นได้ลงคะแนนเรียบร้อยแล้ว แต่พอตนมาเปิดบัตรเลือกตั้งนายกไม่มีเบอร์ที่ตนต้องการ เพราะเลขที่ตนต้องการนั้นเยอะกว่านี้ เพราะบัตรสีชมพูนั้นตนเข้าใจว่ามันมีหมายเลขเยอะ แต่ว่าบัตรสีม่วงตนไม่เข้าใจ จึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้วไม่มีเลขที่ตนต้องการกาลงคะแนน ทำให้ตนฉีกบัตรสีม่วง ซึ่งตนนั้นก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะมาก่อกวนการเลือกตั้งใดๆ ทั้งสิ้น ตนต้องการที่จะมาเลือกตั้ง และใช้สิทธิ์ของตัวเอง ตนก็ไม่รู้ว่าการฉีกบัตรเลือกตั้งนั้นมีความผิด เพราะถ้าตนรู้ก็คงจะไม่ทำแบบนี้ และมันต้องมามีคดีความต่อไปอีก ตนก็คิดแค่ว่ามันก็เป็นกระดาษธรรมดา ทำให้ตนไม่ได้คิดอะไร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา“ทำบัตรเลือกตั้งที่คณะกรรมการประจำหน่วยให้ไปนั้น ชำรุดหรือเสียหาย ในมาตรา 121 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ.2562 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท แต่ถ้ามีเจตนาทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมจะมีโทษปรับ 1 แสนบาท จำคุก และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง” ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนก่อนว่ามีเจตนาอย่างไรเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
มาที่ การเลือกตั้งสมาชิกและนายกเทศมนตรี ที่ จ.ตรัง
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายกิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง ได้เดินทางมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ที่โรงเรียนวัดควนวิเศษ อ.เมืองตรัง โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า วันนี้ได้มาตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 234 หน่วยเลือกตั้ง โดยเริ่มเปิดหน่วยเลือกตั้งตั้งแต่ 08.00 น. ในช่วงเช้าค่อนข้างคึกคักพอสมควร หน่วยที่มาตรวจเยี่ยมสวนทับเที่ยงแห่งนี้มีพี่น้องประชาชนมาลงคะแนนประมาณ 20% ซึ่งหน่วยนี้มีผู้มีสิทธิ์ 500 กว่าคน
ในเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เป็นคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้มีความพร้อมทุกหน่วย ส่วนเวลาปิดหีบการเลือกตั้ง จะปิดในเวลา 17.00 น. หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องของการนับคะแนน
โดยสรุปในภาพรวมทุกหน่วยมีความพร้อมและมีเจ้าหน้าที่คอยแก้ปัญหาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคิดว่าผลการนับคะแนนคาดว่าในเบื้องต้นเสร็จประมาณ 20.00 น. ของนายกเทศมนตรี ส่วนของสมาชิกสภาเทศบาลนครตรัง ประมาณ 22.00 น.
ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีเหตุการณ์ร้องเรียน ส่วนเรื่องของมาตรการโควิด ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย มี อสม.อยู่หน้าคูหาในการตรวจวัดอุณหภูมิพี่น้องประชาชนที่จะเข้ามาลงคะแนนอยู่แล้ว และเน้นย้ำให้พี่น้องประชาชนสวมแมสก์ เว้นระยะห่าง ตรวจวัดอุณหภูมิ มีเจลแอลกอฮอล์
ขณะนี้การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ทางเทศบาลและทางเจ้าหน้าที่ของ กกต.ได้มีการซักซ้อมปฏิบัติและอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ และมีการซักซ้อมหลายรอบในเรื่องของการที่จะปิดช่องว่างของปัญหาที่จะเกิดขึ้น อย่างเช่นเรื่องของไฟฟ้าที่จะทำให้มีผลต่อการนับคะแนน ซึ่งจะต้องใช้ไฟฟ้าแสงสว่าง ส่วนปัญหาอื่นขณะนี้ไม่มี ซึ่งทางจังหวัดได้ตั้งเป้าในครั้งนี้ไว้คาดว่าจะมีพี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 75
