อย่าหาทำ มันไม่ได้ช่วย แถมอันตรายสุดๆ
วันนี้ 15 ก.พ.2564 นายประสิทธิ์ นิลคำ อายุ 37 ปี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รหัสบางขุนเทียน 004 เผยถึงเหตุการณ์เตือนภัยให้บรรดาผู้มีรสนิยมการนำอุปกรณ์ช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเพศหรือเซ็กทอยฟังว่า เมื่อช่วงเย็นวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับเเจ้งจากเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ขอสนับสนุนอุปกรณ์ตัดแหวนโลหะ ที่มีผู้ป่วยชายนำไปรัดตรงโคนอวัยวะเพศ ส่งผลให้เครื่องเพศมีอาการอักเสบบวมเป่ง และทางโรงพยาบาลไม่มีเครื่องมือที่จะสามารถช่วยนำแหวนออกมาได้ จึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ตัดเหล็ก ไปทำการช่วยเหลือ
จากการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวมีอายุประมาณ 25-30 ปี เท่าที่ดูอาการและพูดคุย ยืนยันได้ว่ามีสติสมประกอบ เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้มีความบกพร่องทางจิตแต่อย่างใด ทว่าเจ้าตัวกำลังวิตกและอยู่ในอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง เพราะความผิดพลาดจากการใช้แหวนอลูมิเนียมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณเกือบ 1 นิ้ว หนาราว 2 มิลลิเมตร สวมจากปลายองคชาติรัดเข้าไปสุดที่โคนอวัยวะเพศ ตั้งแต่ในช่วงเช้าวันเดียวกันหวังเพิ่มอรรถรสในเรื่องกิจกรรมทางเพศ จนไม่สามารถนำแหวนออกมาได้ ส่งผลให้อวัยวะเกิดการเขียวช้ำบวมอักเสบ หนำซ้ำยังพบร่องรอยการพยายามทุบทำลายตัดแหวนด้วยตนเองมาก่อนหน้านี้แต่ไม่สำเร็จ ยิ่งทำให้แหวนรัดตัวบีบเข้าเนื้อเยื่อโคนอวัยวะเพศไปกันใหญ่
สำหรับการใช้ห่วงรัดโคนเพิ่มความสนุกสนานทางเพศสำหรับผู้ชายไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นใหม่แต่อย่างใด เนื่องจากในอดีตมีอุปกรณ์เซ็กทอยประเภทห่วงรัดอวัยวะเพศชายแบบแปลกๆ อาทิ ขอบตาเเพะ ห่วงฝังมุก วงแหวนปรับระดับการสั่น ห่วงสารพัดสี ออกมาวางขายตามตลาดนัดและในเว็บไซต์ใต้ดินมานานแล้ว แต่วัสดุที่ผู้ผลิตนำมาทำจำหน่ายนั้น จะเป็นยางซิลิโคน ซึ่งสามารถใส่และถอดจากอวัยวะเพศได้ง่าย อย่างไรก็ตามแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เคยออกมาเตือนให้ผู้มีรสนิยมการใช้อุปกรณ์เซ็กซ์ทอยลักษณะนี้ระวังบาดแผลระหว่างทำกิจกรรมและอาจเกิดการติดเชื้อ จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะซื้อหาและนำมาใช้ โดยเฉพาะการนำอุปกรณ์ที่หาได้มาดัดแปลงใช้เองเฉกเช่นหนุ่มสัปดนรายนี้จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นอีกหลายเท่า
อย่าหาทำกันนะ จันเห็นแล้วอันตรายจริงๆ
