“ทุเรียนป่าละอู” หนึ่งในทุเรียนที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติ แต่รู้ไหมว่า “ทุเรียนป่าละอูต้นแรก” มีความสำคัญกับกับชาวกะเหรี่ยง และชาวบ้านในป่าละอูมาก…
จันมีโอกาสนั่งสองแถวของพี่กุ้ง ล่องป่าละอูเพื่อดูความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และตั้งใจไปพบ ป้าช้วน กลัดเงิน อายุ 71 ปี ชาวกะเหรี่ยงป่าละอู เจ้าของสวนทุเรียนป่าละอูต้นแรก ของป่าละอู จนกลายเป็นของขึ้นชื่อ เป็นพืชเศรษฐกิจของป่าละอู โดยจันเดินทางไปที่สวนป้าช้วน ที่ หมู่ 3 บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ซึ่งมีระยะทางจากด้าน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ไกลพอสมควร แต่บรรยากาศระหว่างทางชวนหลงใหลด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ตลอดทั้งทาง
เมื่อจันไปถึงสวนป้าช้วน ภายในสวนจะมีผักและผลไม้หลายชนิดอยู่ในสวน ทั้งแก้วมังกร มังคุด เงาะ และต้นทุเรียนอยู่ในสวนหลายต้น โดย “ทุเรียนป่าละอูต้นแรก” จะยืนต้นสูงสง่าอยู่กลางสวน จากสายตาความสูงคงไม่ต่ำกว่าตึก 4 ชั้น ลูกทุเรียนห้อยระย้าตามกิ่งต่าง ๆ ทั่วต้น ซึ่งอายุนั้นก็นานถึง 43 ปี นับตั้งแต่ครั้ง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) พระราชทานพันธุ์กล้าทุเรียนหมอนทอง และพันธุ์ผลไม้อื่น ๆ ให้ราษฎรในป่าละอู มาปลูกและขยายพันธุ์ เมื่อ พ.ศ. 2521
หลังจากเราเดินชมต้นทุเรียนป่าละอูต้นแรก พร้อมชมสวนป้าชวนอยู่นาน จันจึงอยากฟังเรื่องราว ความเป็นของทุเรียนต้นนี้ จันเลยเดินเข้าไปที่บ้านป้าช้วน ซึ่งเป็นบ้านไม้เก่าหลังเล็ก นาทีที่จันเห็นป้าช้วน รู้สึกแปลกใจเพราะป้าช้วน ป่วยเส้นเลือดฝอยในสมองอุดตัน ทำให้เดินไม่ได้ ความจำเลือนราง แต่พอคุยสักพักป้าช้วน ก็เริ่มจำเรื่องราวต่างๆ ได้
ป้าช้วน เล่าว่า ทุเรียนต้นนี้ คุณพ่อรับได้พระราชทานจากพันธุ์กล้าทุเรียนหมอนทอง จาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) และ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งที่ท่านเสร็จมาตรวจเยี่ยม รร.อานันท์ ซึ่งนั้นคือที่มาของ “ทุเรียนป่าละอูต้นแรก” ต้นนี้
นาทีที่ป้าช้วน ได้เห็น สมเด็จย่า และ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ป้าช้วนรู้สึกปลื้มใจ ดีใจอย่างมาก ซ้ำยังได้ต้นทุเรียนพระราชทาน มาปลูกเลี้ยงชีพต้นเอง มีอยู่มีกิน ถึงทุกวันนี้ ป้าช้วนถือเป็นบุญวาสนาอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ป้าช้วน ยังเล่าเหตุการณ์สุดประทับใจ ครั้งหนึ่งเคยตัดทุเรียนจากต้นนี้ ไปถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ถึงวังไกลกังวล อ.หัวหิน แต่เหตุการณ์นั้นทำเอาป้าช้วน เหงื่อปาด เพราะเมื่อไปถึงบริเวณวัง ก็มีตำรวจจะจับ แต่ป้าช้วน ก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ “ฉันเอาทุเรียนมาถวายเท่านั้นเอง” พร้อมกับตำรวจพลร่ม ที่เดินทางไปด้วยเจรจาให้ ทุเรียนของป้าช้วน จึงได้ถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างที่ตั้งใจเอาไว้
เมื่อจันถามถึงรายได้ จากการขายทุเรียน ป้าช้วน ก็บอกว่า ก็ได้พอมีอยู่มีกิน ชาวบ้านก็ต่างมีรายได้กันทั่วหน้า เพราะปลูกผลไม้หลายชิด ทำให้มีผลไม้ขายได้ทั้งปี เพราะยึดปฏิบัติตาม ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านเคยตรัสไว้ ว่าให้ปลูกพืช ผลไม้หลายชนิด จะได้มีกินตลอดปี ซึ่งป้าช้วน ยึดปฏิบัติมาโดยตลอด ถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็มีอยู่มีกินอย่างพอเพียง
“ พออยู่พอกินก็พอแล้ว อย่าไปโลภมาก พ่อหลวงบอก เราก็ทำตาม เราไม่อดหรอก กะเหรี่ยงมีอยู่มีกินก็เพราะ พ่อหลวง แม่หลวง นี่แหละ”
เราใช้เวลาพูดคุยกับป้าช้วน อยู่นานจึงเห็นถึงความปีติ ความจงรักของป้าช้วน ที่มีต่อ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) อย่างสุดซึ้ง ขอบคุณการเดินทางที่ทำให้จันได้พบเรื่องราวแสนปีติเช่นนี้