ไล่ไทม์ไลน์ชัดๆ จาก ศพลูกหาย จนโป๊ะเเตก กลายเป็น โอละพ่อท้องทิพย์ !

อ่านไทม์ไลน์ชัดๆ กันอีกรอบ ก่อนถึงบทสรุป จาก ศพลูกหาย สู่ดราม่า โอละพ่อท้องทิพย์

จากดราม่าศพลูกแฝดชายหญิงหายตัวปริศนา ของสาวเมืองสุพรรณบุรี จนนำมาสู่เรื่องราวโอละพ่อ สุดอลเวง ที่งานนี้ หลักฐานหลายอย่างยืนยันชัด เธอไม่ได้ท้อง !

บทสรุปของเรื่องนี้ใกล้ถึงตอนจบ หลังวานนี้ (22 พ.ค.64) นัท อายุ 30 ปี และเตย อายุ 22 ปี 2 สามีภรรยา ที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าว ได้ออกมายอมรับและขอโทษต่อสังคมว่า ศพของลูกไม่ได้หาย แต่เธอเคยท้องจริงๆ และจะเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเบื้องลึกอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค.64)

วันนี้ อีจัน เลยขอย้อนไทม์ไลน์แบบชัดๆ กันอีกรอบ ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้ เรื่องราวอลเวงจะจบลง

เรื่องราวโอละพ่อเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 โดยเพจดัง จ.สุพรรณบุรี ได้โพสต์วิดีโอไลฟ์สดของ เหตุการณ์ ขณะที่มีคนไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งคาดว่าเป็นญาติของครอบครัวเด็ก พร้อมกับอ้างว่าหลานเสียชีวิต แต่ทางโรงพยาบาลได้ส่งร่างหลานบรรจุในโลงศพส่งมาให้ แล้วกำชับว่าไม่ให้เปิดดู เพราะกลัวติดเชื้อ ญาติเอะใจจึงเปิดโลง กลับไม่พบศพของหลาน มีเพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น และได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ว่าศพลูกเธอหายไปไหน ?

ย้อนกลับไปวันที่ 10 พ.ค.64
ฝั่งเตยและนัท 2 สามีภรรยาที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหาย เล่า เธอมาตรวจครรภ์ ที่ รพ.บางปลาม้า หมอบอกว่า เด็กในครรภ์ไม่ค่อยแข็งแรง น้องตัวเล็ก รพ.บางปลาม้า บอกจะฉีดยากระตุ้นก่อน และยาเร่งคลอด

แต่ฝั่งของ รพ.บางปลาม้า โต้
วันที่ 10 พ.ค.64 เธอมาตรวจที่โรงพยาบาลจริง ด้วยอาการปวดท้องข้างซ้าย ตรวจปัสสาวะพบว่ามีเม็ดเลือดขาวมีเชื้อโรค อุ้งเชิงกรานอักเสบ และตรวจปัสสาวะไม่พบการตั้งครรภ์ ได้ผลเป็นลบ สรุปได้ว่า ไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน เลยให้เธอกลับบ้านไป

11 พ.ค.64

ฝั่งเตยและนัท เล่า รพ.บางปลาม้า ตรวจปากมดลูกแต่มันไม่เปิด ก็ทำเรื่องผ่าส่งทาง รพ.เจ้าพระยายมราช แต่ขณะกำลังจะส่งไป รพ.เจ้าพระยายมราช หัวเด็กโผล่มาครึ่งหนึ่ง จากที่ตอนแรกปากมดลูกไม่เปิด และต้องทำการคลอด เธอก็เบ่ง แพทย์ก็ใช้เครื่องช่วยเอาน้องออกมา เด็กเป็นแฝด ชาย 1 คน หญิง 1 คน เด็กมีน้ำหนัก 1 กก.กว่า แล้วส่งเด็กทั้งคู่ไป รพ.เจ้าพระยายมราช ทันที ตอนเอาเด็กส่งตัวไปรักษาต่อ พ่อเด็กก็เห็นว่ามีรถพยาบาลออกไปส่ง และทาง รพ.เจ้าพระยายมราช ก็ส่งรูปลูกแฝดมาให้ดู

ฝั่ง รพ.บางปลาม้า โต้

11 พ.ค.64 เธอกลับมาที่ รพ.อีกครั้ง ด้วยอาการเดิม จึงให้แอดมิทที่ รพ. แต่ยืนยัน ผลตรวจครรภ์เป็นลบ

14 พ.ค.64

ทาง รพ.บางปลาม้า เล่า ส่งตัวสาวคนดังกล่าวกลับบ้าน หลังจากอาการ อุ้งเชิงกรานอักเสบ ดีขึ้น

ฝั่งนัทและเตย โต้ เธอนอนพักรักษาตัวที่ รพ.บางปลาม้า และพยาบาลที่ รพ.เจ้าพระยายมราช โทรมาบอกอาการลูกตลอดเวลา และลูกใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ 1 คน คือ แฝดผู้ชาย ส่วนแฝดสาวแข็งแรงดี

17 พ.ค.64

ฝั่งนัทและเตย เล่า รพ.เจ้าพระยายมราช แจ้งว่า แฝดชายหัวใจเต้นผิดจังหวะ หยุดหายใจไป แต่ปั๊มหัวใจกลับมาได้ และช่วง 12.00 น. และ 13.00 น. รพ.โทรมาอีกว่าน้องหยุดหายใจ ก็ปั๊มกลับมาได้เหมือนเดิม

18 พ.ค.64

ฝั่งนัทและเตย เล่า ตอน 21.00 น. รพ.โทรกลับมาว่าแฝดชายเสียชีวิตแล้ว ปั๊มกลับมาไม่ได้แล้ว แต่แฝดหญิงยังปกติ รพ.เจ้าพระยายมราช บอก น้องกินนมดี แข็งแรง ร้องเก่ง ส่วนศพแฝดชายต้องทำการชันสูตรก่อน

20 พ.ค.64

ฝั่งนัทและเตย เล่า รพ.เจ้าพระยายมราช โทรมาให้ไปรับศพเด็ก วันนั้นเธอก็ขอดูลูกแฝดผู้หญิงของเธอ แต่เธออ้าง รพ.ไม่ให้ดู เธอจึงวานให้พยาบาลช่วยถ่ายรูปน้องมาให้ดู พยาบาลก็เอาโทรศัพท์เธอเข้าไปถ่ายรูป เธอยืนยันนี่คือลูกของเธอ

ส่วนญาติได้เตรียมงานศพที่วัด กะจะเผาแฝดชายวันนั้นเลย เธอมารับศพแฝดชาย ตอน 16.00 น.ที่ ชั้น 3 ของ รพ.เจ้าพระยายมราช

แต่ รพ.เจ้าพระยายมราช โต้ ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณชั้น 3 หน้าห้องกุมารเวช ช่วงเวลา 14.00 น.ถึง 18.00 น. ไม่ปรากฏสาวในภาพ แต่มีรถจอดอยู่ที่ลานจอดรถจริง

ช่วงเย็นวันที่ 20 พ.ค.64 เพจดัง จ.สุพรรณบุรี ได้โพสต์วิดีโอไลฟ์สดของ เหตุการณ์ ขณะที่มีคนไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งคาดว่าเป็นญาติของครอบครัวเด็ก พร้อมกับอ้างว่าหลานเสียชีวิต แต่ทางโรงพยาบาลได้ส่งร่างหลานบรรจุในโลงศพส่งมาให้ แล้วกำชับว่าไม่ให้เปิดดู เพราะกลัวติดเชื้อ ญาติเอะใจจึงเปิดโลง กลับไม่พบศพของหลาน มีเพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น และได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ว่าศพลูกเธอหายไปไหน ?

21 พ.ค.64

รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี พร้อมทีมแพทย์พยาบาลได้ออกมาแถลงข่าว โดยนายแพทย์อนุพันธ์ หวลบุตตา รอง ผอ.รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวหากมีการย้ายคนไข้ หรือเปลี่ยนโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลต้นทาง คือ รพ.บางปลาม้า จะต้องมีเอกสารพร้อมส่งข้อมูลมายัง รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช เพราะถือเป็นระบบมาตรฐานของโรงพยาบาลทั้งประเทศ ในเรื่องของข้อมูล การวินิจฉัย และมีการโทรประสานงานกันเพื่อนำคนไข้เข้ารักษาตัว ก่อนจะประสานแพทย์เพื่ออนุญาตเข้ารักษา แต่หากกรณีที่เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ในกรณีนี้หากเป็นลูกแฝดฉุกเฉิน ก็จะต้องเป็นรถพยาบาลของโรงพยาบาลนำส่งเท่านั้น และจะมีการบันทึกในเวชระเบียนทุกครั้ง มีเอกสาร แต่กรณีนี้ไม่มีหลักฐานทางเวชระเบียน

และที่สำคัญ ในช่วงเวลานั้นห้องคลอดของ รพ.บางปลาม้า มีการติดเชื้อโควิด-19 ห้องผ่าตัดคลอดจึงถูกปิด นอกจากนี้ยังมีอ้างด้วยว่ามีคนโทรศัพท์ว่าให้มารับศพลูก แต่จากการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว พบว่าเป็นเบอร์โทรจากองค์การโทรศัพท์

ในวันเดียวกัน (21 พ.ค.64)

นัทและเตยไปให้สัมภาษณ์กับรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 หลังจากจบรายการ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกร ได้พาทั้งคู่ไปตรวจภายในกับ นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์ หัวหน้าแผนกสูตินรีแพทย์เวชกรรม รพ.มงกุฎวัฒนะ ภายใต้ความยินยอมของทั้ง 2 คน และยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อ

ผลตรวจยืนยันชัดเจน หมอบอกว่า เห็นเลือด แต่อาจจะเป็นประจำเดือน ก็เป็นไปได้ ปากมดลูกปิด ไม่เหมือนกับเพิ่งคลอดมา มดลูกไม่โต ปกติยาว 7.5 ซม. แต่วัดได้ 7.2 ซม. ถือว่าปกติ จากการอัลตร้าซาวด์ โพรงมดลูกแฟบ ไม่มีเศษอะไรหลงเหลืออยู่ ไม่เหมือนการคลอดลูกมา

ชาวเน็ตเริ่มจับโป๊ะ เปรียบเทียบภาพอัลตร้าซาวด์ และภาพที่เตยอ้างว่า พยาบาลถ่ายแฝดหญิงส่งมาให้ พบ ทั้ง 2 ภาพ เป็นภาพที่เสิร์ชเจอได้ง่ายๆ ในกูเกิ้ล !

ล่าสุด 22 พ.ค.64

นัทเเละเตยได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า “ผมได้ปรึกษากับเเฟนผม จนได้เรื่องมาก็พอสมควร ก็เลยต้องให้พี่ๆมารับรู้ ยอมรับว่า เคยท้องจริง เเต่มันหลุดไป เเต่เเฟนผมปิดบังไว้ เหมือนน้องเขาบอกว่าท้องเมื่อ 4-5 เดือนที่เเล้ว หลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์กันเเล้วเกิดเเท้งขึ้นมา ขอโทษทุกสื่อที่มา พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะทำเเบบนี้ ขอโทษด้วย ส่วนรายละเอียดลึกๆ จะไปเเถลง เป็นวันจันทร์นี้ (24 พ.ค.64)

ส่วนสาเหตุจริงๆ เอาไว้เเฟนของผมจะบอก ตอนนี้ยังไม่ขอพูด ขอให้เราได้คุยกันก่อน ตอนนี้สภาพจิตใจเเฟนยังเเย่ เเต่ไม่โกรธ ผมรักภรรยาผม ส่วนเหตุผลหลักที่ทำไป เพราะรัก กลัวว่าผมจะไม่พอใจในตัวเขา เขาเลยไม่พูดเรื่องนี้ให้ฟัง ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ วันที่ไปออกรายการ ก็ไม่มีใครรู้ ผมก็มั่นใจว่าท้องเเน่นอน ขอโทษทุกคนที่ทำไปไม่ทันได้ยั้งคิด เพราะว่าเรื่องนี้มันมีอะไรที่ผมไม่รู้มาก่อน ขอโทษครับ” ส่วนเตยนั้นไม่พูดอะไร เธอร้องไห้ เสียใจ

รอฟัง พรุ่งนี้ (24 พ.ค.64) บทสรุปของเรื่องทั้งหมด เธอกุเรื่องท้อง ไปเพื่ออะไร ?