นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายโทฟิก บักคาลิ รักษาการผู้อำนวยการโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เปิดการประชุมสัมมนาผู้บริหารระดับสูง ในหัวข้อ “Ending AIDS: Zero Discrimination, One World” เนื่องในวัน Zero Discrimination Day จัดโดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และ UNAIDS
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ทุกวันที่ 1 มี.ค. ของทุกปี เป็นวันรณรงค์สากลเพื่อยุติการเลือกปฏิบัติ (Zero Discrimination Day) แต่ปัจจุบันยังพบปัญหาการตีตราและการเลือกปฏิบัติ ทั้งที่บ้าน สถานที่ทำงาน โรงเรียน สถานบริการด้านสุขภาพ หรือแม้แต่ในด้านกฎหมาย จึงทำให้คนไม่กล้าเข้ารับการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี และบริการป้องกันและการรักษาที่จัดไว้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการยุติเอดส์ อย่างไรก็ตาม การที่จะลดการเลือกปฏิบัติไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความคิด ความเชื่อ และค่านิยมที่หยั่งรากลึกในสังคมมาเป็นเวลานาน ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงแนวทางและแนวปฏิบัติ รวมถึงกฎหมายต่าง ๆ ในการเข้าถึงบริการเอชไอวี จึงเป็นเรื่องท้าทายของประเทศสมาชิกทั่วโลก ที่จะต้องเร่งดำเนินการขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรม
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในวาระที่ประเทศไทยเป็นประธานคณะกรรมการบริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS Programme Coordinating Board: PCB) ปี 2565 ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุน การยุติการตีตรา และการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวี ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายการยุติการตีตราและการเลือกปฏิบัติได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยการสานพลังภาคีเครือข่ายประชาคมโลก และหวังว่า การสัมมนาในครั้งนี้ ทุกภาคส่วนจะร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันข้อมูล และประสบการณ์การทำงาน พร้อมกำหนดประเด็นปัญหาสำคัญที่นำมาแก้ไขยุติการตีตราและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวี เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายและเจตนารมณ์ในการลดความเหลื่อมล้ำและยุติโรคเอดส์ให้ได้ภายในปี 2573