จุรินทร์ บุกโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ยันมีสต๊อกกว่า 200 ล้านชิ้น

จุุรินทร์ ยัน หน้ากากอนามัยมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ สต๊อกกว่า 200 ล้านชิ้น ขอประชาชนอย่าแห่กักตุน

ในช่วงที่หลายคนเกาะติดและกังวลกับสถานการณ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันเชื้อ โดยหลายคนต่างแห่ซื้อหน้ากากอนามัยกักตุนเอาไว้ จนทำให้เกิดกระแสข่าวว่าหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอในท้องตลาด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ (31 มกราคม 2563) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ เยี่ยมโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยสำรวจกรรมวิธีการผลิต เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบดีว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่พี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ ต้องใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา การมาดูโรงงานการผลิตหน้ากากอนามัยในวันนี้ ขอเรียนให้ทราบว่าประเทศไทยการผลิตหน้ากากอนามัยนั้นมีความต้องการใช้ในประเทศเดือนละ 30 ล้านชิ้น โดยประมาณ ซึ่งศักยภาพการผลิตทั้งระบบมีอยู่ประมาณ 10 โรงงานใหญ่ มีกำลังการผลิตรวมถึงเดือนละประมาณ 100 ล้านชิ้น โดยจะเห็นว่ากำลังการผลิตของเรายังเหลืออยู่

อย่างไรก็ตามมีการประเมินโดยกรมการค้าภายในว่า การใช้ปกติเดือนละ 30 ล้านชิ้นในประเทศ ถัดจากนี้ถ้าสถานการณ์ไวรัสโคโรนายังไม่ดีขึ้น ความต้องการใช้ก็อาจจะเพิ่มจาก 30 ล้านชิ้นเป็น 40 ล้านชิ้นต่อเดือน

สำหรับกระทรวงพาณิชย์ ได้ประเมินเบื้องต้น ยังเชื่อมั่นว่ากำลังการผลิตในประเทศยังเพียงพอสำหรับความต้องการของตลาดในประเทศให้เพียงพอ ซึ่งสต๊อกปัจจุบันที่มีอยู่นั้นประมาณ 200 ล้านชิ้น ก็สามารถที่จะใช้ในการสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ 4-5 เดือนถ้าไม่มีการผลิตเพิ่ม

นายจุรินทร์ เปิดเผยอีกว่า ไม่อยากให้ตื่นตระหนกและไม่ควรซื้อเพิ่มมาเก็บไว้ใช้กลัวว่าจะขาดตลาด เพราะถ้าทุกท่านยิ่งตื่นตระหนก ซื้อมาเก็บไว้ก็จะยิ่งทำให้ของขาดตลาด ทางกระทรวงพาณิชย์ให้ความมั่นใจว่าจะสามารถจัดผู้ผลิตให้ผลิตทันความต้องการใช้โดยต่อเนื่อง และไม่ขาดตอนนี่คือสิ่งที่อยากจะสื่อสารกับพี่น้องประชาชนว่า ถ้าซื้อไปใช้ได้ในอัตราปกติ

ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้ ตนยังรับผิดชอบดู 2 เรื่อง คือ เรื่องปริมาณอย่าให้ขาดแคลน และดูเรื่องราคาไม่ให้มีการโก่งราคาขายเกินราคาที่เป็นธรรม

สำหรับราคานั้นตนก็ให้ท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ สั่งการไปยังพาณิชย์จังหวัด ซึ่งสั่งไปหลายวันแล้วให้ไปตรวจตลาด อย่าให้เกิดปัญหาเรื่องการขาดแคลนหรือการโก่งราคา ถ้าพบที่ไหนให้รายงานมาที่ท่านปลัด โดยเร็วที่สุดเพื่อจะได้แก้ปัญหาต่อไป และวันที่ 29 มกราคม 2563 ได้มอบหมายให้ทางกรมการค้าภายในเชิญผู้ผลิตทั้งหมดที่มีประมาณ 10 ราย มาพูดคุยเพื่อวางแผนในการผลิตหน้ากากอนามัยให้เพียงพอต่อการใช้งาน หากติดขัดให้แจ้งกรมการค้าภายในเพื่อป้องกันการขาดตลาด

ขณะนี้ยังเป็นภาวะปกติในสัดส่วนของการใช้ภายในประเทศและสัดส่วนการส่งออกของโรงงาน ยังไม่มีการสกัดกั้นการส่งออกเพราะโดยปกติทางโรงงานในประเทศไทยก็มีทั้งสองสัดส่วนอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องของมนุษยธรรม อีกด้วย นายจุรินทร์ กล่าว

สำหรับผู้บริโภคหรือผู้ใช้ทางใดที่พบว่ามีการโก่งราคาขาย ขอให้แจ้งที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือแจ้งสายด่วนของกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายในได้ที่หมายเลข 1569