ระวัง! โรคไข้ดิน ครึ่งปีคร่าชีวิตคนไทยแล้ว 21 ราย

ฝนตก น้ำท่วม อันตราย! กรมควบคุมโรค เตือนเดินลุยน้ำเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคไข้ดิน ครึ่งปีตายแล้ว 21 ราย

พี่น้องชาวสวน ชาวไร่ ชาวนา ฝนตกเฉอะแฉะ เดินลุยดิน ลุยน้ำขัง พยายามอย่าเดินเท้าเปล่า

รวมทั้งพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ไม่ควรเดินลุยน้ำด้วยเท้าเปล่า หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน

เสี่ยงอันตราย! จากโรคเมลิออยด์ หรือโรคไข้ดิน

โรคไข้ดิน  เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปในดิน น้ำ นาข้าว ท้องไร่ แปลงผัก สวนยาง และบ่อน้ำ หากต้องทำงานสัมผัสกับดินและน้ำที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน หรือมีบาดแผลขีดข่วน ควรสวมรองเท้าบูทเพื่อป้องกัน และเมื่อเสร็จภารกิจให้รีบอาบน้ำชำระร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที และหากมีอาการไข้สูงติดต่อกันเกิน 5 วัน ควรรีบพบแพทย์

นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา บอกว่า โรคเมลิออยโดสิส หรือโรคไข้ดิน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เบอร์โคเดอเรีย สูโดมัลลิอาย (Burkholderia pseudomallei) ซึ่งพบได้ทั่วไปในดิน น้ำ นาข้าว ท้องไร่ แปลงผัก สวนยาง ทั่วทุกภาคในประเทศไทย เชื้อดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง คือ 1.การสัมผัสน้ำหรือดินที่มีเชื้อปนเปื้อน 2.ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป 3.สูดหายใจเอาฝุ่นจากดินที่มีเชื้อเจือปนอยู่เข้าไป

ทั้งนี้ หลังติดเชื้อประมาณ 1-21 วันจะเริ่มมีอาการเจ็บป่วย แต่บางรายอาจนานเป็นปี ขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภูมิต้านทานของแต่ละคน อาการของโรคนี้ไม่มีลักษณะเฉพาะ จะมีความหลากหลายคล้ายโรคติดเชื้ออื่นๆ หลายโรค เช่น มีไข้สูง มีฝีที่ผิวหนัง ปวดท้อง ปวดข้อปวดกระดูก มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ บางรายพบอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย ส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากอาการไข้เป็นหลัก จึงทำให้วินิจฉัยโรคได้ยาก ต้องอาศัยการตรวจเพาะเชื้อทางห้องปฏิบัติการเป็นหลัก เพื่อใช้ประกอบการตรวจวินิจฉัยและรักษา

สถานการณ์โรคเมลิออยสิส หรือโรคไข้ดินในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 26 มิถุนายน 2566 มีผู้ป่วย 1,688 ราย มีผู้เสียชีวิต 21 ราย

สำหรับอาชีพที่พบผู้ป่วยสูงสุดคืออาชีพเกษตรกร ร้อยละ 54.74 รองลงมาคือ อาชีพรับจ้าง ร้อยละ 23.55 และเด็กในปกครอง ร้อยละ 7.34 ตามลำดับ กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 65 ปี ขึ้นไป  อัตราป่วยต่อประชากรแสนคนเท่ากับ  14.66 ราย รองลงมาคือ กลุ่มอายุ  55 – 64 ปี(อัตราป่วยต่อประชากรแสนคนเท่ากับ  11.4 และ กลุ่มอายุ 45 – 54  ปี อัตราป่วยต่อประชากรแสนคนเท่ากับ 7.08 ตามลำดับ

นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ระบุว่า ในการป้องกันโรคเมลิออยโดสิส หรือโรคไข้ดิน ควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ควรสวมรองเท้าบูทหรือถุงพลาสติกหุ้มรองเท้า เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง หากมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ หมั่นล้างมือล้างเท้าด้วยน้ำสบู่บ่อยๆ และอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ รวมถึงดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำต้มสุกทุกครั้ง หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อที่แพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยและรักษาทันทีตามอาการและความรุนแรงของโรค

คลิปอีจันแนะนำ
สุดช็อก ซื้อโซฟา ได้ของสมนาคุณแบบไม่ทันตั้งตัว!