
เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส สื่อของสหรัฐฯ รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของสหรัฐฯ ล่าสุดทะลุครึ่งล้านรายแล้ว นับตั้งแต่ตรวจพบผู้เสียชีวิตรายแรกเมื่อปีก่อน ซึ่งมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่ายอดผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และสงครามเวียดนามรวมกัน
“หมุดหมายสำคัญมักเกิดขึ้นยามความหวังฉายแสง : ผู้ป่วยรายใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว อัตราการเสียชีวิตชะลอตัวลง และการฉีดวัคซีนเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ทว่ายังคงมีข้อกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ที่อุบัติใหม่ และอาจใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าการระบาดใหญ่จะอยู่ภายใต้การควบคุม”
รายงานจาก เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส
ทั้งนี้โควิด-19 ได้แพร่กระจายทั่วทุกพื้นที่ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมืองที่เคยประชากรหนาแน่น รวมถึงพื้นที่ชนบทด้วย ซึ่งชาวอเมริกัน 1 ใน 670 คน เสียชีวิตจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
สำหรับมหานครนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 28,000 ราย หรือคิดเป็น 1 ราย ต่อประชากร 295 คน ส่วนนครลอสแองเจลิส มีผู้เสียชีวิตกว่า 20,000 ราย หรือคิดเป็น 1 ราย ต่อประชากร 500 คน
ขณะที่เทศมณฑลแลมบ์ของรัฐเท็กซัส ซึ่งมีประชากร 13,000 คน อาศัยกระจัดกระจายบนพื้นที่ 1,000 ตารางไมล์ มีผู้เสียชีวิตในอัตรา 1 รายต่อประชากร 163 คน
โดยศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ รายงานเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รวมอยู่ที่ 511,133 ราย เมื่อนับถึงเมื่อวานที่ผ่านมา (22 กุมภาพันธ์ 2564) และยังคงครองอันดับ 1 ของโลก ซึ่งแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และเท็กซัส เป็นสามรัฐแรกที่มีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดของประเทศ