“หมอยง” ชี้ โอไมครอน มาแน่ ระบุ ต่างประเทศ ระบาดเยอะ

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ใจความว่า ในช่วงที่ไวรัสโควิด สายพันธุ์อังกฤษ แอลฟา ระบาดในอังกฤษตั้งแต่ปลายปี 2563 พบผู้ป่วยชาวอังกฤษ เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งในเดือนมกราคม 2564 ทุกคนที่เข้ามาจะต้องกักตัว 14 วัน ทำให้สามารถควบคุมได้อย่างดี จนกระทั่งปลายเดือนมีนาคม สายพันธุ์แอลฟา ก็เข้าสู่ประเทศไทยจนได้ โดยเข้ามาทางชายแดนด้านตะวันออก ขณะที่สายพันธุ์เดลต้า ที่เกิดในประเทศอินเดีย เมื่อช่วงต้นปี 2564 พอถึงช่วงเดือนพฤษภาคม ก็เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว จนแทนที่สายพันธุ์แอลฟาในเวลาต่อมา ใช้เวลาเพียงเดือนกว่า ๆ เท่านั้น ก็กระจายทั่วประเทศไทย จนถึงวันนี้ โดยในปัจจุบันการเดินทางเข้าประเทศไทย ใช้ระบบ test to go ไม่มีการกักตัว ยกเว้นคนที่ตรวจพบเชื้อด้วย RT-PCR เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเดินทางมาทั้งครอบครัว 4 คน พ่อแม่ลูก ตรวจพบเฉพาะลูก 1 คน ก็จะกักตัวลูก ไว้รักษา พร้อมกับปล่อยผู้ที่ตรวจเป็นลบทั้งหมด ทำให้ทุกคนที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ถือว่ามีความเสี่ยงสูง โอกาสที่คนที่ถูกปล่อยตัวไป จะติดเชื้อแบบไม่มีอาการ หรือสายพันธุ์โอไมครอน มีความเป็นไปได้สูง ที่จะแพร่กระจายเชื้อต่อไปได้

บทเรียนจากต่างประเทศ โควิด 19 สายพันธุ์โอไมครอน กระจายทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ขณะนี้มีเกือบ 90 ประเทศที่ตรวจพบ มีอัตราแพร่กระจายในพื้นที่ยุโรป และอเมริกาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็มก็ติดได้ ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยจากต่างประเทศ ไม่จำกัดอยู่ที่ทวีปแอฟริกา ส่วนใหญ่จะเป็นยุโรป และอเมริกาที่จะมีโอกาสนำเชื้อเข้ามา ปัจจุบันนี้ มีวัคซีนในส่วนที่สร้างภูมิต้านทานเฉพาะ spike หนามแหลมเท่านั้น แต่สายพันธุ์ โอไมครอน จะกลายพันธุ์มากในส่วนหนามแหลม ทำให้เห็นได้ชัดว่า วัคซีนจะมีประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก และปัจจุบันเป็นที่ทราบดีว่าภูมิต้านทานแบบลูกผสม ที่เกิดจากการติดเชื้อร่วมกับวัคซีน จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าภูมิต้านทานจากวัคซีน spike อย่างเดียว ซึ่งต้องรอการศึกษาจากวัคซีนเชื้อตาย ที่มีแอนติบอดีหลากหลายกว่า spike

ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทยนั้น คาดว่า อาจจะมีการระบาดของสายพันธุ์นี้ในอนาคตอันใกล้ แต่จะหลังช่วงปีใหม่หรือไม่ยังไม่ทราบ และมีโอกาสที่จะเกิดเป็นคลัสเตอร์ กระจายอย่างรวดเร็ว หากไม่ช่วยกันดูแล ป้องกัน ซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามจากข้อมูลในต่างประเทศ ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดมา มีอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ป่วย ลดน้อยลงมาโดยตลอด แต่ถ้ามีผู้ป่วยจำนวนมาก จำนวนผู้ป่วยที่จะต้องเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตก็จะเพิ่มในอัตราเพิ่มขึ้น และสิ่งที่สำคัญก็คือ จะมีบุคลากรทางการแพทย์ส่วนหนึ่ง เกิดติดเชื้อ และจะทำให้ขาดบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลรักษา สิ่งที่น่าสนใจ ในการติดตามการพยากรณ์ของอังกฤษ ซึ่งมีประชากรใกล้เคียงประเทศไทย หากมีการระบาดขนาดนี้ ในไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็จะมีผู้ติดเชื้อเกือบครึ่งประเทศ ประชากรครึ่งประเทศจะมีภูมิต้านทานโดยธรรมชาติ ซึ่งเป็นภูมิต้านทานที่ดีกว่าวัคซีน มีความเป็นไปได้ที่โรคจะสงบลง หากฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ร่วมกับการติดเชื้อ จะทำให้ประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้โรคนี้สงบได้เร็วขึ้น โดยจะต้องไม่มีการสูญเสียชีวิต หรือสูญเสียให้น้อยที่สุด เพราะประเทศไทยผ่านมา 2 ปีแล้ว

ซึ่งสถานการณ์ทั่วโลกขณะนี้แสดงให้เห็นว่า โอไมครอน มาแน่ ซึ่งเราไม่อยากได้เป็นของขวัญปีใหม่