ทำเอาช็อกไม่น้อยเลยค่ะ เมื่อแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ออกมายอมรับว่า วัคซีนโควิดของบริษัท มีผลข้างเคียง อาจทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน และเกล็ดเลือดต่ำ แม้ว่าจะเกิดขึ้นได้ยาก
วานนี้ (30 เม.ย.67) อินดิเพนเดนท์ (independen) รายงานว่า บริษัทยายักษ์ใหญ่ แอสตร้าเซนเนก้า ยอมรับว่า วัคซีนป้องกันโควิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชื่อ โควิชีลด์(Covishield) สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ยาก รวมถึงภาวะลิ่มเลือดอุดตัน และเกล็ดเลือดต่ำ
โควิชีลด์ ได้รับการพัฒนาโดย บริษัท อังกฤษ-สวีเดน โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย มีการบริหารงานอย่างกว้างขวาง ใน 150 ประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร และอินเดีย
การศึกษาบางชิ้น ที่ทำระหว่างที่โควิดแพร่ระบาดนั้น พบว่า วัคซีนมีรประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ได้ 60-80% อย่างไรก็ตาม การวิจัยก็พบว่า โควิดชิลด์ อาจทำให้บางคนเกิดลิ่มเลือด ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้
คดีฟ้องร้องแบบกลุ่ม ในสหราชอาณาจักร อ้างว่าวัคซีนดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส เรียกร้องค่าเสียหายสูงถึง 100 ล้านปอนด์ แก่เหยื่อประมาณ 50 ราย โดยผู้ร้องเรียนรายหนึ่ง กล่าวหาว่า วัคซีนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่สมองอย่างถาวร หลังจากที่เขามีลิ่มเลือด จนทำให้เขาทำงานไม่ได้
แม้แอสตร้าฯ จะโต้แย้งข้อกล่าวอ้างเหล่านั้น แต่ก็ยอมรับเป็นครั้งแรกในเอกสารของศาลฉบับหนึ่งว่า “วัคซีนสามารถทำให้เกิด TTS หรือภาวะลิ่มเลือดอุดตัน-ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ได้ในบางกรณี แต่ไม่ทราบสาเหตุ”
นอกจากนี้ภาวะ TTS ยังสามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีวัคซีนแอสตร้าฯ (หรือวัคซีนใดๆ) สาเหตุในแต่ละกรณีจะเป็นเรื่องของหลักฐานจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการยอมรับของแอสตร้าฯครั้งนี้ ขัดแย้งกับคำยืนกรานของบริษัทในปี 2003 ที่ว่า ไม่ยอมรับว่า TTS เกิดจากวัคซีนในระดับทั่วไป
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า โควิชีลด์ อาจมีผลข้างเคียงที่คุกคามถึงชีวิตได้ โดยมีรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ ที่หายากมากที่เรียกว่า Thrombosis with Thrombocytopenia Syndrome ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติและรุนแรง ที่เกี่ยวข้องกับจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ ที่ได้รับการรายงานหลักจากฉีดวัคซีนนี้
ไหนใครฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าบ้าง มีผลข้างเคียงอะไรกันมั้ย?