สาว โพสต์ เธอกับสามี และ ลูกแฝด ป่วยโควิด รอเตียงไม่ไหว กลับ ตจว. ไปรักษา ก็ไม่มีค่ารถพยาบาล

สาว โพสต์ เธอกับสามี และ ลูกแฝด ป่วยโควิด รอเตียงไม่ไหว กลับ ตจว. ไปรักษา ก็ไม่มีค่ารถพยาบาล โชคดี รพ.ใน กทม. ติดต่อรับรักษาแล้ว

วิกฤตโควิด-19 ระบาดหนัก ซ้ำผู้ป่วยต้องเผชิญกับปัญหารอเตียงรักษา

ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “ ตอนนี้เรากับน้องแฝดยังหาเตียงไม่ได้เลยติดต่อทุกช่องทางแล้วค่ะ น้องแฝดคนเล็กหายไข้สูงแล้วเหลือแต่ไข้ต่ำ ๆ แต่เป็นหนักสุดตอนนี้คือตัวเราเองเราเจ็บคอ ไอ แค่ลุกขึ้นเดินยังเหนื่อย หายใจก็ยังเหนื่อย ต้องเลี้ยงลูกแฝดที่ติดอีก กลัวตัวเองจะล้มไปแล้วไม่มีใครดู

ไม่มีจนท. โทรหาเรื่องเตียงเลยค่ะ ขอความกรุณาช่วยเหลือเราแม่ลูกหน่อยนะคะ ”

ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้บอกว่า ตอนนี้หาเตียงได้แล้ว ได้ที่ ร.พ.ตาก ไปอยู่ห้องพิเศษต้องออกค่าห้องเอง ตรงนี้ไม่ติดอะไรแต่ประเด็นคือตอนนี้ยังหารถไปไม่ได้ค่ะ โทรไป

สอบถามแล้วรถโรงพยาบาล 15,000 บาท ซึ่งแพงมากสู้ราคาไม่ไหว

พอจะมีใครรู้จักหน่วยงานอะไรอีกไหมคะ ทาง ร.พ. เขาบอกต้องเดินทาง

ตอนตี 5 วันอังคาร แต่ถ้าได้ ร.พ.ที่กรุงเทพก่อนก็เอานะ

ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ค. 64) จันได้พูดคุยกับผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว เธอเล่าว่า ตอนนี้ เธอ กับ สามี และลูกน้อยฝาแฝด วัย 1 ขวบ 8 เดือน ติดเชื้อโควิด-19 โดยรู้ผลของลูกเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา เธอได้ประสานไปที่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลจังหวัดบ้านเกิดของสามี และเธอก็ได้ห้องและเตียงรักษาตามตั้งใจ แต่ติดปัญหาคือ ค่ารถพยาบาล จาก จ.ตาก-กทม. เพื่อรับตัวเธอ พร้อมสามีและลูกแฝด ไปรักษาที่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นั้น มีค่าใช้จ่ายถึง 15,000 บาท หากบวกกับค่าห้องพิเศษที่จะต้องจ่ายให้โรงพยาบาลวันละ 1,000 บาท เมื่อรวมกันแล้วเธอไม่สามารถจ่ายไหว จึงโพสต์หาวิธีทางที่จะได้รับรักษา แต่ถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีทางไหนพอจะช่วยเรื่องค่าเดินทางได้ ก็จะหยิบยืมมาจ่ายเสียก่อน โชคดีที่วันนี้ ทางโรงพยาบาลใน กทม. โทรเข้ามาว่า “จะมารับตัวไปรักษา” จึงสบายใจเรื่องค่าเดินทาง และค่ารักษาไป

จากเรื่องดังกล่าว เป็นกรณีตัวอย่างที่ผู้ป่วยติดต่อโรงพยาบาลในภูมิลำเนาของตัวเอง เพื่อรักษาอาการป่วยของตนเอง แต่เรื่องเดินทางยังเป็นข้อสงสัยว่า ผู้ป่วยจะสามารถดำเนินการด้วยวิธีใดบ้าง