ช่วงนี้อย่าชะล่าใจกับ โควิด 19 เพราะมันกำลังกลับมาแพร่ระบาด และเป็นโควิดสายพันธุ์ลูกผสมที่พยายามหลบหลีกภูมิคุ้มกันของมนุษย์
ข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ของ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า โอไมครอนลูกผสม “XBB.2.3” กำลังจะเข้ามาแทนที่โอไมครอน XBB.1.16
อีกไม่นานเราจะได้ยินชื่อบรรดาลูกหลานของตระกูลโอไมครอน XBB กล่าวคือ XBB.2.3 ควบคู่ไปกับ XBB.1.5, XBB.1.9.1 และ XBB.1.16
โอไมครอนลูกผสม XBB.2.3 พบระบาดอย่างรวดเร็วในอินเดียและสิงคโปร์ มีแนวโน้มจะมาแทนที่โอไมครอนลูกผสม XBB.1.16 และสมาชิกในตระกูล XBB ที่หมุนเวียนอยู่ในอินเดียและสิงคโปร์เร็วๆ นี้
ในสหรัฐเริ่มพบการระบาดของโอไมครอน XBB.2.3 เช่นกัน ส่วนในไทยเพิ่งตรวจพบเพียง 6 ราย ยังไม่สามารถคำนวณหาค่ามความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เทียบกับสายพันธุ์อื่นได้
โอไมครอนลูกผสม XBB.2.3 มาพร้อมกับการกลายพันธุ์ที่ส่วนหนาม “S:T478K” เหมือนกับสายพันธุ์เดลตาในอดีต ที่ช่วยให้หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของมนุษย์ได้ดี รวมถึงการกลายพันธุ์ส่วนอื่นที่ไม่ใช่ส่วนหนามคือ “ORF7a:A13V” พร้อมกับการขาดหายไปในส่วนของ “Orf9”
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี ได้ตรวจสอบข้อมูลรหัสพันธุกรรมของโควิด-19 จากฐานข้อมูลโควิดโลก “จีเสส (GISAID)” พบโอไมครอน XBB.2.3
ทั่วโลกประมาณ 2,264 ราย
อินเดีย 664 ราย
สิงคโปร์ 364 ราย
ไทย 6 ราย
ในอาเซียนพบการระบาดโอไมครอน XBB.2.3 มากที่สุดในสิงคโปร์ ส่วนอาการเบื้องต้นของโอไมครอน XBB.2.3 ประเมินว่าไม่แตกต่างจากโอไมครอนสายพันธุ์อื่น
นอกจากนี้ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับสถานการณ์การติดเชื้อในไทย ว่า ประเทศไทยกำลังจะเปิดเทอมแล้ว โดยสถานการณ์ปัจจุบันมีการติดเชื้อจำนวนมากในชุมชน ดังนั้นหากไม่วางแผนเตรียมรับมือให้ดี จะเกิดการระบาดจำนวนมากได้
...ตัวเลขรายสัปดาห์ของไทย 23-29 เม.ย.2566
เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าแทบทุกสถิติ...
ป่วยนอนโรงพยาบาล 1,811 ราย ตาย 10 ราย ปอดอักเสบ 157 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 79 ราย
...คาดประมาณจำนวนติดเชื้อใหม่แต่ละวันอย่างน้อย 12,936-17,967 ราย
ดังนั้น ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้ดี สวมแมสก์เมื่อออกนอกบ้าน และเลี่ยงอยู่ในที่แออัด
