ครึ่งปี 66 คนไทยป่วยไข้เลือดออกแล้ว 21,457 คน มากกว่าปีก่อน 3.3 เท่า

กระทรวงสาธารณสุข เปิดยอดครึ่งปี 66 คนไทยป่วยไข้เลือดออกแล้ว 21,457 คน มากกว่าปีก่อนที่มียอดป่วย 6,488 คน ถึง 3.3 เท่า พบ 96.63% อายุ 5-14 ปี และเสียชีวิต 19 ราย

‘กรมอุตุนิยมวิทยา’ ประกาศเข้าหน้าฝนอย่างเป็นทางการของไทย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.66 และจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือน ต.ค.66 ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออก จะมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือน ม.ค.67

ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณฝนรวมปีนี้จะน้อยกว่าปี 2565 และจะน้อยกว่าค่าปกติประมาณ 5% (ปีที่แล้วสูงกว่าค่าปกติ 14%) ในช่วงประมาณกลาง เดือน มิ.ย.ถึงกลางเดือน ก.ค.66 จะเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง อาจส่งผลทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำด้านการเกษตรได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน

ส่วนช่วงเดือน ส.ค.และ ก.ย.66 เป็นช่วงที่จะมีฝนตกชุกหนาแน่นที่สุด และมีโอกาสสูงที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1-2 ลูก ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ และก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศไทยเข้าหน้าฝนเป็นทางการ 22 พ.ค.66 นี้

ขณะที่ ‘กระทรวงสาธารณสุข’ (สธ.) ได้ออกมาเตือนถึง ‘โรคไข้เลือดออก’ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ติดต่อโดยการถูกยุงลายกัด โดยเฉพาะในฤดูฝน ที่จะเกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายชั้นดี

โดย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกปีนี้ มีแนวโน้มพบผู้ป่วยสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 14 มิ.ย.66 พบผู้ป่วยแล้ว 21,457 ราย เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ที่มีผู้ป่วย 6,488 ราย พบว่ามากกว่าถึง 3.3 เท่า และมีผู้เสียชีวิต 19 ราย

ผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มอายุ 5-14 ปี มากที่สุด จำนวน 7,331 ราย และเป็นกลุ่มที่มีอัตราป่วยสูงถึง 96.63% ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียน จึงต้องช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมทั้งที่บ้านและโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้มีเศษขยะ เช่น กล่องโฟม พลาสติกเหลือใช้ ที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เพื่อป้องกันอันตรายจากโรคไข้เลือดออก

ทั้งนี้ นายแพทย์โอภาส ยังกล่าวว่า โรคไข้เลือดออก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ร่วมกับอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก ปวดกระบอกตา บางรายอาจมีปวดท้อง อาเจียน มีจุดแดงเล็กๆ ตามแขน ขา ลําตัว มีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกตามไรฟัน หรือประจำเดือนมากผิดปกติ ดังนั้น ในช่วงนี้ หากป่วยมีไข้สูง แต่ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น ไอ หรือน้ำมูก และตรวจ ATK ไม่พบเชื้อโควิด-19

โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว มีภาวะอ้วน และผู้สูงอายุ ให้สงสัยว่า อาจจะเป็นโรคไข้เลือดออก ห้ามรับประทานยาลดไข้กลุ่มเอ็นเสด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคให้ชัดเจน ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิต ส่วนเด็กๆ ที่ยังไม่สามารถบอกอาการของตนเองได้

ผู้ปกครองต้องสังเกตอาการใกล้ชิด หากรับประทานยาลดไข้ 2 วันแล้วไม่ดีขึ้น ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นโรคไข้เลือดออก และให้รีบไปพบแพทย์ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก สามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

‘อีจัน’ ขอย้ำว่า หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์ทันที ห้ามซื้อยามารับประทานเองโดยเด็ดขาด แม้อาการจะไม่รุนแรง เพราะถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เสียชีวิตได้