“ตอนที่ผมร่วงครั้งแรก น้ำตาก็ร่วงไปด้วย มันน่ากลัวมาก เห็นผมที่อยู่บนพื้นในห้องน้ำ น้ำตาก็ไหลเลย ชีวิตมันเศร้าจังเลย เพราะเป็นห่วงผมมาก สิ่งแรกที่กลัวคือผมร่วง ก็ตัดสินใจว่าต้องโกนผมให้หมด”
คู่สนทนาตรงหน้า เธอเล่าด้วยรอยยิ้มนะคะ และนานแล้วที่ไม่ได้คุยกับแหล่งข่าว แล้วรู้สึกมีความสุข มีความหวัง มีพลังชีวิต เท่ากับเธอคนนี้มาก่อน “พี่ไอรีน เพลินพิศ โกแวร์” ใส่แมสคุยกัน เลยได้โฟกัสที่ดวงตา ดวงตาของเธอมีแต่ประกายของชีวิตที่มีความสุข เราสัมผัสได้แบบนั้นค่ะ พี่ไอรีน เป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่ 4 ค่ะ
ช่วงแรกก็รักษาด้วยการฉายแสง ให้คีโม ถัดมา 3 ปี ปรากฏว่าเชื้อมะเร็งลุกลามไปที่ตับ แพร่กระจายไปที่ปอด และกระดูกด้วย การรักษาด้วยคีโม ตัวยาที่ดีที่สุด แพงที่สุด ร่างกายก็ไม่ตอบสนองแล้ว มี 2 ทางให้เลือกคือ รักษาต่อไปจนสุดทาง ทรมานทั้งอาการป่วย ทรมานทั้งผลจากคีโม หรือ หยุดการรักษา เลือกหนทางทรมานทางเดียวคือ ทรมานจากอาการของโรค แล้วให้ร่างกายดับสลายจากไปเมื่อถึงเวลา
คีโมไม่ทำลายมะเร็งไม่ได้ แต่ทำลายร่างกาย รอความตาย
“เราก็คีโมเรื่อยๆ เหมือนกับว่าเรารอความตาย รอว่าวันไหนที่ร่างกายเราจะไม่ไหว เพราะว่าร่างกายไม่ตอบสนอง แล้วต้องเปลี่ยนยาเรื่อยๆ เราต้องรักษาไม่หยุดเลย ในตลอดระยะเวลา 3 ปี เหมือนโรงพยาบาลเป็นบ้านหลังที่ 2 ไหนจะต้องผ่าตัดตับ เอารังไข่ออก ในระหว่างนั้นก็ยังต้องคีโม มันเลยเป็นการรักษาโหดมากจริงๆ มันบอบช้ำไปหมด จนเราก็บอกคุณหมอว่า เราไม่เอาแล้ว เราขอหยุดรักษาดีกว่า ยาเราใช้ตัวท็อปแล้ว แต่ว่ามะเร็งกลับใหญ่ขึ้น แถมยังแพร่กระจายไปที่กระดูกอีก จนเราท้อ เจ็บทั้งตัว ทั้งเสียเงิน เราก็เลยรู้สึกว่า ควรจะหยุดทรมานตัวเอง แล้วให้มันทรมานในเสี้ยวสุดท้ายของชีวิต แล้วจากไปเองเลยดีกว่า”
“การที่หม่ามี้รักษาต่อ คนที่ทรมานคือหม่ามี้ แต่ว่าคนที่มีความสุขคือ คนรอบข้าง แต่ถ้าวันไหนหยุดรักษา คนรอบข้างจะทรมาน แต่คนที่สบายคือหม่ามี้ เพราะหม่ามี้จะจากไปโดยไม่ต้องทรมานอีกแล้ว”
เป็นคำพูดของลูกสาวที่บอกกับเธอ และเป็นช่วงเวลาที่เธอได้เจอกับ “คุณหมอกฤษณ์ จาฎามระ” และได้รู้จักกับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด Immunotherapy หรือ “ระบบภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งเต้านม” ซึ่งเธอจะเป็นผู้หญิงไทย คนแรกของไทย และคนแรกของโลกที่จะเข้าสู่กระบวนการรักษานี้ หลังจากที่คุณหมอและทีมวิจัยได้ศึกษาและพัฒนามาแล้วระยะหนึ่ง เธอบอกกับเราว่า เธอหวังสูงว่าเธอจะหายจากมะเร็งในระยะสุดท้ายนี้ได้จริงๆ
มะเร็งระยะสุดท้าย ลงตับ ลามปอด สู่กระดูก หวังสูงรักษาหาย
“มันเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้เล็กๆ เลย มันเป็นสปอร์ตไลท์ของชีวิต ให้เราอยากสู้ต่อ ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ เขาเอาเซลล์ เอาภูมิคุ้มกันของเราออกไป แล้วก็ให้มันทำความรู้จักเซลล์มะเร็งของเรา แล้วก็เอาเซลล์ตัวนี้ที่รู้จักกันแล้ว มาเข้าสู่กระบวนภูมิคุ้มกันบำบัด แล้วก็ฉีดกลับเข้าไปในร่างกายเรา แล้วระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกส่งเข้าไปในร่างกาย ก็จะวิ่งกลับไปฆ่ามะเร็งทั่วร่างกายเราเลย แล้วฆ่าเฉพาะเซลล์มะเร็งด้วย ก็มีความหวังว่าถ้าหายได้ มันจะหายได้แบบ 100% แล้วมันเป็นเฉพาะของเราด้วย คนอื่นมาใช้ของเราก็ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เชื้อมะเร็งของเขา เหมือนตัดเสื้อให้เราใส่คนเดียว คนอื่นมาใส่ไม่ได้ เราเลยรู้สึกมันเป็นโปรเจคยิ่งใหญ่มาก ตอนนั้นเราก็หวังสูงเหมือนกัน และผลข้างเคียงไม่น่าจะมีไรมาก เพราะทุกอย่างมันมาจากตัวเรา”
หยุดให้คีโม ไม่ต้องกินยา กราฟชีวิตพุ่งสูง
“ต้องบอกก่อนว่า เรา ณ ตอนนั้น คือเป็นมะเร็งเต้านม ลามลงตับ ปอด และกระดูก เรียกว่าวาระสุดท้ายแล้ว ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แต่พอมารักษาด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัด Immunotherapy ในช่วง 6 เดือนแรก กราฟชีวิตมีแต่พุ่งขึ้น ร่างกายเราฟื้นกลับมาแข็งแรง เพราะว่าเราไม่ได้คีโม แต่พอผ่านมาได้สัก 6 เดือน กราฟดิ่งลงจนคิดว่าเราไม่รอดแล้ว เราปวดหลังจนลุกเดินไม่ได้ เพราะว่ากระดูกมีเชื้อมะเร็ง คลื่นไส้อาเจียน ท้องบวม น้ำท่วมปอด หายใจลำบาก ตอนนั้นคุยกับที่บ้านว่าเราไม่น่ารอดแล้ว เราไม่น่าจะผ่านมันไปไม่ได้ เป็นแบบนั้นอยู่ 3 สัปดาห์ แล้วก็เหมือนปาฏิหาริย์ อาการทรุดที่ว่า ค่อยๆ หายจนเป็นปกติ พอมาหาคุณหมอ ผลทุกอย่างมันก็ดีขึ้นจริงๆ ทุกคนในครอบครัวก็ประหลาดใจมาก เรารอดจากวิกฤตนั้นมาได้อย่างไร”
วันสุดท้ายของการ ฉีดวัคซีนมะเร็ง เข็มสุดท้าย
“รักษาด้วยวิธี Immunotherapy มา 1 ปีแล้ว วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรักษาด้วยระบบภูมิคุ้มกันบำบัด เรารับการรักษามา 9 โดสแล้ว ปลอดภัยดีทุกครั้ง ไม่มีอาการข้างเคียงอะไร ไม่ต้องกินยาเพิ่ม ไม่ผมร่วง ไม่มีการทำลายร่างกาย ผิวพรรณหน้าตา ปกติมาก”
ได้เป็นผู้หญิงไทย คนแรกของโลก กับ การรักษาด้วยระบบภูมิคุ้มกันบำบัด มะเร็งเต้านม ครั้งแรกของโลก
“เซอร์ไพรส์ว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้อย่างไร คนเราจะมาอยู่ในจุดที่ได้เจอทีมคุณหมอที่ดีและเก่ง แล้วคุณหมอเลือกเราในการรักษาเป็นคนแรก แล้วก็สำเร็จ มีชีวิตที่ดี แล้วทุกวันนี้เรายังนั่งหายใจอยู่ แล้วก็แข็งแรง มันเป็นเรื่องที่มีแต่คำว่าขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณทุกคน ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะว่าในยามที่เราลำบากมากๆ แทบจะผ่านมันไปไม่ได้ ทีมคุณหมอก็ดูแลเราดี แล้วคนรอบตัวเราทุกคน ครอบครัว เพื่อน เจ้านายก็เป็นกำลังใจที่ดี ต้องขอบคุณจริงๆ ทำให้เราอึด สู้ อดทน จนผ่านวันเวลาช่วงนั้นมาได้”
ภูมิคุ้มกันบำบัด Immunotherapy หรือ “การรักษาด้วยระบบภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งเต้านม” ยังต้องพัฒนาต่อ
สำเร็จแล้วจริงๆ เราได้คุยกับผู้หญิงไทยคนแรกของโลก โดยคุณหมอกฤษณ์ จาฎามระ หัวหน้าศูนย์ ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อมะเร็งเต้านม สภากาชาดไทย และทีมนักวิจัยไทย ถือเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นความหวังใหม่ เป็นความหวังยิ่งใหญ่ของผู้หญิงที่ ป่วยมะเร็งเต้านม #สังคมอีจัน เราได้ระดมทุนกันเพื่อช่วยโครงการนี้ ได้ไปแล้วกว่า 30,000,000 บาท ค่ะ จำนวนนี้เพื่อสร้างห้องคลีนรูมและอุปกรณ์ให้กับทีมรักษา ของคุณหมอกฤษณ์ จาฎามระ นะคะ ใครที่ต้องการช่วยสนับสนุนต่อ สามารถสมทบทุนได้ที่
สอบถามข้อมูลการรักษาได้ที่ 02-2564693 สอบถามข้อมูลบริจาคได้ที่ 02-2146044
ถึงผู้หญิงที่กำลังป่วย มะเร็งเต้านม ขอเพียงอย่าสิ้นหวัง
พี่ไอรีน ฝากกำลังใจผ่านเราไปยังผู้หญิงที่กำลังป่วย มะเร็งเต้านม ทุกท่านว่า
“คนที่กำลังป่วยอยู่ อย่าเพิ่งท้อนะคะ เราต้องสู้จนสุดทาง อย่าถอดใจ เพราะว่าคุณหมอและทีมรักษาไม่หยุดพัฒนา และเทคโนโลยีทางการแพทย์ก็พัฒนาไม่หยุด ในระหว่างทางที่เราต่อสู้ เราอาจจะได้พบกับคุณหมอที่เก่งๆ ค่ะ”
พี่ไอรีน เพลินพิศ โกแวร์
