หมอเตือน โรควูบ อันตรายถึงชีวิต

คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการวิ่งเตือน โรควูบ ขณะออกกำลังกาย เป็นความผิดปกติที่อาจทำให้เสียชีวิตได้

Akanis Srisukwattana (หมอแอร์) ผู้ก่อตั้ง Health Performance Team และ Avarin Running and Triathlon ได้โพสต์เตือนถึงอันตรายของโรควูบที่อาจทำให้เสียชีวิต หลักจากมีเหตุการณ์นักวิ่งซ่อมวิ่งปกติ แต่กลับวูบหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

โรควูบ อันตรายถึงชีวิต

ฝากถึงนักกีฬา และ บุคคลทั่วไปที่ออกกำลังกายครับอาการวูบ ขณะออกกำลังกาย ให้ถือว่าเป็นความผิดปกติ ที่อาจทำให้เสียชีวิตได้

การวูบ เป็นลม ส่วนใหญ่ จะมาจาก การออกกำลังกายที่หนักเกินไป นานไป

แต่ส่วนน้อย มาจากการมีโรคซ่อนโดยเฉพาะ โรคหัวใจ และ โรคสมอง ที่อันตรายมากๆ

ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่วูบ หรือจะวูบ( วูบหมายถึง หมดสติ จอดับ ไม่รู้ตัวนะครับ อาการ หน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่า ไม่นับเป็นวูบ)

ต้องพบแพทย์ ยิ่งเร็วยิ่งดีตรวจให้แน่ใจ ว่าไม่มีโรคอันตรายซ่อนอยู่ก่อนที่จะออกกำลังครั้งต่อไป

เราไม่สามารถแยกเองได้ 100% ว่าวูบจาก ออกกำลังหนัก หรือวูบจากมีโรคซ่อนครับ

การวูบ หน้ามืด เจ็บหน้าอก ขณะแข่ง ไม่มีการนั่งพักให้หายแล้วไปต่อ การแข่ง คุณในวันนั้นจบลงแล้วและต้องบอก เพื่อนนักวิ่ง บอกเจ้าหน้าที่สนาม เพื่อไป รพ ตรวจรักษา หาสาเหตุนะครับ เพราะโรคบางอย่างอาจเป็นโรคที่ต้องรักษาเร่งด่วน

วูบ ต้องตรวจให้แน่นอน ว่าไม่มีอะไรซ่อน ยิ่งตรวจเร็วยิ่งดี ถ้ายังไม่ตรวจ อย่าพึ่งไปออกกำลังครับ เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้ถ้ามีโรคซ่อน

ขอเพิ่มเติมเนื้อหาครับเพื่อความเข้าใจ

การออก zone สูงๆ ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตโดยตรงนะครับ ถ้าคนนั้นไม่มีโรคซ่อนอยู่ ออก zone สูงก็ แค่ เหนื่อย ล้า เมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ไม่ทำให้เสียชีวิต

กลับกันการใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้ออกกำลังไม่หนักมาก มีโอกาสเสียชีวิตได้ครับถ้ามีโรคซ่อนครับ

สำคัญคือต้องคัดกรอง ว่าเรามีโรคซ่อนที่เราไม่รู้ตัวไหมและควรทำโดยรีบด่วน ถ้ามีอาการเตือน เหล่านี้เจ็บหน้าอก ใจสั่น หน้ามืดเป็นลมครับ

ขอแสดงความเสียใจกับนักวิ่งและญาติน้องที่เสียชีวิตด้วยครับ

Akanis Srisukwattana (หมอแอร์)
การใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้ออกกำลังไม่หนักมาก มีโอกาสเสียชีวิตได้ครับถ้ามีโรคซ่อนครับ สำคัญคือต้องคัดกรอง ว่าเรามีโรคซ่อนที่เราไม่รู้ตัวไหมและควรทำโดยรีบด่วน ถ้ามีอาการเตือน เหล่านี้เจ็บหน้าอก ใจสั่น หน้ามืดเป็นลมครับ

ขณะที่ โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ออกมาให้ข้อมูลในบทความ หน้ามืด วูบ หมดสติ อาจคร่าชีวิตคุณ จากโรคหัวใจ หรือโรคทางสมอง ไว้อย่างละเอียด โดยมีคำเตือนถึงนักกีฬาว่า

การหมดสติในนักกีฬา หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน

การเป็นนักกีฬาที่ดูสุขภาพดีและแข็งแรง และไม่ได้มีประวัติเป็นโรคหัวใจมาก่อน ก็อาจเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น แล้ววูบหมดสติได้ อย่างที่เรามักจะเคยเห็นกันในข่าวมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะนักกีฬาฟุตบอล

สาเหตุที่นักกีฬาบางคน เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน

เหตุการณ์ลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ก็นับเป็นความสูญเสียและยิ่งถ้าเกิดกับนักเล่นกีฬาที่มีชื่อเสียงแล้ว ย่อมสร้างความสะเทือนใจให้แก่แฟน ๆ หรือผู้ชม ปัจจุบันจึงเกิดการตื่นตัวในเรื่องนี้กันมาก ทางสมาคมทางด้านกีฬาหลาย ๆ แห่ง เช่น FIFA ก็มีการพูดคุยกันถึงแนวทางคัดเลือกตัวผู้เล่นเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว (Sudden cardiac death)

จากการศึกษาข้อมูลการเสียชีวิตของนักกีฬาอายุต่ำกว่า 35 ปี ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า สาเหตุหลักของการวูบ หมดสติ และนำมาสู่การเสียชีวิตด้วยอาการด้านหัวใจของนักกีฬา มาจากสาเหตุ ดังนี้

  1. กล้ามเนื้อหัวใจหนา (Hypertrophic Cardiomyopathy: HCM)

  2. กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และหลอดเลือดหัวใจอุดตันฉับพลัน และแสดงอาการด้วยหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะรุนแรง

  3. คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ (Arrthymias)

  4. โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (Congenital Heart Disease)

  5. โรคกล้ามเนื้อหัวใจถูกไขมันแทรกแทนที่ (Arrhythmogenic right ventricular dysplasia : ARVD)

  6. หัวใจหยุดทำงานฉับพลันจากการถูกกระแทกที่หน้าอก (Commotio Cordis) แรงกระแทกจะกระตุ้นให้เกิดการนำไฟฟ้าหัวใจห้องล่างผิดปกติที่เร็วมากภายในเวลาไม่กี่วินาที กระตุ้นให้เกิดหัวใจห้องล่างสั่นพริ้ว (Ventricular Fibrillation)

นักวิ่งแชร์บทเรียนหมดสติวูบขณะวิ่ง ผ่านมา 3 วัน พบเสียชีวิตแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่นักกีฬาเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวจากการใช้แอลกอฮอล์หรือสารเสพติดบางชนิดในปริมาณมากก่อนการแข่งขัน รวมถึงกรณีที่ยังไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุได้อีกด้วย

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีและแนวทางการตรวจคัดกรองได้พัฒนาไปมาก ทำให้เราสามารถตรวจพบสาเหตุดังกล่าวได้เกินกว่าครึ่งของสาเหตุที่ทำให้นักกีฬาวูบ หมดสติ และเสียชีวิต โดยที่ไม่มีอาการเตือนมาก่อน โดยทดสอบร่วมกับการวัดความฟิตของร่างกายไปพร้อมกันด้วย