เตือน! คุมอาหาร ลดน้ำหนัก เสี่ยงโพแทสเซียมต่ำ อัมพาตรุนแรง

ใครที่คิดจะลดน้ำหนัก หรือกำลังลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารอยู่ต้องระวัง หลังมีผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรง จนเป็นอัมพาตรุนแรง หลังจากลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร

โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ค.66 ทาง ETtoday สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ว่า เสี่ยวหมิง ชายวัย 30 ปี อาศัยอยู่ในเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน มีอาการแขนขาอ่อนแรงกลางดึก และไม่สามารถลุกขึ้นเองได้ หลังจากตื่นนอนในวันรุ่งขึ้น ครอบครัวของเขาจึงพาไปหาหมอทันที

เมื่อตรวจเลือดแล้ว หมอพบว่าเสี่ยวหมิง มีโพแทสเซียมในเลือดดำเพียง 1.72 มิลลิโมลต่อลิตร น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของค่าปกติ ซึ่งอยู่ในภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำอย่างรุนแรง และดัชนีต่างๆ ผิดปกติ เช่น แคลเซียมต่ำ แมกนีเซียมต่ำ และภาวะอัลบูมินในเลือดต่ำ

เมื่อสอบถาม และตรวจประวัติพบว่า เสี่ยวหมิง กำลังลดน้ำหนัก โดยกินอาหารเพียงวันละมื้อ และแทบไม่กินเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้เลย เนื่องจากเขาเป็นลูกเรือ และต้องไปทะเลเป็นเวลานานเพื่อทำงาน

ทั้งนี้ แม้ว่าเขาลดน้ำหนักได้มากถึง 15 กิโลกรัม ภายในครึ่งปี แต่ผลของการทำเช่นนี้ ทำให้ร่างกายของเขาเสียหายเช่นกัน

ขณะที่ หวง บินหง (Huang Debin) ผู้อำนวยการแผนกต่อมไร้ท่อและการเผาผลาญ โรงพยาบาลฉางชา มณฑลหูหนาน (Changsha Third Hospital) อธิบายว่า ค่าปกติของโพแทสเซียมในเลือดคือ 3.5 ถึง 5.5 มิลลิโมลต่อลิตร และเมื่อความเข้มข้นต่ำกว่า 3.5 มิลลิโมลต่อลิตร

จึงสามารถวินิจฉัยได้ว่า เสี่ยวหมิง เป็นภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ไม่มีการตอบสนอง แขนขาอ่อนแรง เป็นอัมพาตรุนแรง เนื่องจากการอดอาหารมากเกินไป ทำให้เกิดการความไม่สมดุลทางโภชนาการ

ทั้งนี้ ยังโชคดีที่หลังจากทานอาหารเสริมโพแทสเซียมทางปาก และทางหลอดเลือดดำ กลับไปรับประทานอาหารตามปกติ เสริมสร้างโภชนาการ และมาตรการการรักษาอื่นๆ แล้ว เสี่ยวหมิง ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ

ขณะเดียวกัน การใช้ยาระบายมากเกินไป หรือติดต่อกันเป็นเวลานาน ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาเจียน ท้องเสียหนัก หรือการใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิด ก็สามารถทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำได้เช่นกัน ซึ่งสามารถรักษา และป้องกันภาวะนี้ได้ ด้วยการบริโภคอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น ส้ม กล้วย มะเขือเทศ แครอท อะโวคาโด รวมถึงเนื้อสัตว์ไม่ติดมันและปรุงสุก

อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ หากจะหยุดใช้ยาชนิดใด หรือจะใช้อาหารเสริมโพแทสเซียมด้วยตนเอง เนื่องจากผู้ป่วยอาจได้รับโพแทสเซียมในปริมาณมากเกินไป และเสี่ยงทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงขึ้นจนเป็นอันตรายได้

ข้อมูลจาก: https://www.ettoday.net , https://www.pobpad.com