ลุ้น ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ คลายล็อก มาตรการพื้นที่ ควบคุมโควิด

จับตาที่ประชุม ศบค. ถกมาตรากร คลายล็อกพื้นที่ ควบสุดเข้มงวด เหลือเพียง สมุทรสาคร ร้านอาหารเปิดได้ถึง 5 ทุ่ม ร้านเหล้า งดเต้นรำ

จากกรณี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวว่า การประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) หรือ ศบค.ชุดเล็ก จะเสนอให้มีการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดทั่วประเทศ ว่าจะสามารถปรับลดเขตพื้นที่ความเข้มข้นของมาตรการหรือผ่อนปรนอนุญาตให้สามารถดำเนินกิจกรรม หรือกิจการบางอย่างที่ไม่เสี่ยงหรือมีความเสี่ยงต่ำต่อการแพร่ระบาดได้หรือไม่

ล่าสุด วันนี้ ( 29ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เพื่อพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว

โดยร่างข้อเสนอพื้นที่ผ่อนคลายการใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ(เน้นพื้นที่ควบคุม) โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะยังเป็น จ.สมุทรสาคร ขณะที่ พื้นที่ควบคุมสูงสุด มีด้วยกัน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี

ส่วนพื้นที่ควบคุม

ภาคกลางและภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ ตาก กาญจนบุรี ชัยนาท อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี

ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด

พื้นที่เฝ้าระวังสูง

ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร สุโขทัย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์

ภาคกลางและภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา สงขลา ยะลา นราธิวาส

พื้นที่เฝ้าระวัง

ภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน พะเยา อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี

ภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี

สำหรับประเด็นในการตั้งข้อเสนอพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ศปก.ศบค. ระบุว่า ยังคงให้ปิดสถานที่และเข้มงวดกำกับสถานบริการ ได้แก่ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการผับ บาร์ และคาราโอเกะ สนามมวย สถานที่ออกกำลังกายในร่ม ยิม ฟิตเนส สนามชนไก่ ชนวัว กัดปลา บ่อน สนามพระเครื่อง กิจการอาบน้ำ อาบอบนวด สปา นวดแผนไทย โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา สถานบันการศึกษา สนามเด็กเล่น สวนสนุก เครื่องเล่นเด็ก ตู้เกมส์ ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต การประชุม งานเลี้ยง กิจกรรมประเพณีที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก การจัดงานแสดงสินค้า และสถานีขนส่งสาธารณะ

ส่วนสถานที่ ที่จะพิจารณาให้เปิดได้บางส่วน ตามระยะเวลา และเข้มงวดของเฉพาะสมุทรสาคร ข้อเสนอของ ศปก.ศบค. ระบุว่า เช่น ตลาดนัด ร้านอาหารซื้อไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น และเปิดไม่เกิน 21.00 น. ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า จำกัดเวลาเปิดไม่เกิน 21.00 น. ศูนย์เด็กเล็กและสถานที่พักของผู้สูงวัย เฉพาะเข้าที่พักเป็นประจำ สถานประกอบการโรงงาน ที่พร้อมประกอบการป้องกันดรคในองค์กรและจัดให้มีการติดตามตัวของผู้เดินทางเข้าออกทุกคน

สำหรับ พื้นที่ควบคุมสูงสุด นั้น ยังคงให้ปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ขณะที่ร้านอาหารให้นั่งรับประทานได้แบบเว้นระยะห่าง เปิดได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. ร้านอาหารนั่งรับประทานแบบเว้นระยะห่างได้ จำหน่ายแอลกอฮอล์ เปิดได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. ดนตรีสดเล่นได้ แต่ต้องงดการเต้นรำ

ในขณะที่ พื้นที่ควบคุมสูงสดและพื้นที่ควบคุม นั่นคือ จ.สมุทรสาคร หากจะมีการการประชุมสัมมนาจำกัดผู้เข้าร่วมไม่เกิน 100 คน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และแสดงดนตรี พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดและเฝ้าระวัง จำกัดผู้เข้าร่วมไม่เกิน 300 คน แสดงดนตรีได้ แต่งดการเต้นรำ เป็นต้น