ทำความรู้จัก จอย Ride รับจ้างพาคนแก่หาหมอ

อีจัน Life Talk คุยกับ จอย Ride ลูกรับจ้างหลานจำเป็น จุดเริ่มต้นของการลาออกจากงานประจำ สู่การรับจ้างพาคนแก่หาหมอ

ธุรกิจที่เริ่มจากความต้องการเยียวยาตัวเองจากโรคซึมเศร้า

เคยไหมที่ต้องตื่นตีสี่ไปรับบัตรคิวที่โรงพยาบาล เพื่อให้พ่อหรือแม่ได้ไปนั่งรอพบหมอ โดยเราต้องแกร่วรออยู่ด้วยทั้งวัน


เคยไหมที่เราอยากพาพ่อแม่ไปโรงพยาบาล แต่งานท่วมหัว แล้วจะเลือกงานหรือจะทิ้งงานดี

การพาพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ไปโรงพยาบาลแต่ละครั้ง บางทีอาจหมายถึงการทิ้งงานสำคัญที่จะหาเงินมาเลี้ยงดูพ่อแม่ด้วย

คงจะดี ถ้ามีใครอาสามาทำหน้าที่นี้แทน

ผู้หญิงคนนี้คือ จอย ณัฐกาญจน์ เด่นวณิชชากร เจ้าของ Joy Ride Thailand ค่ะ

เราชวนคุณจอย ผู้หญิงตัวกลมหน้าตาสดใส มาร่วม Life Talk ให้คุณเห็นมุมสวยงามของโลกใบนี้ ว่าปัญหาที่เล่ามาข้างต้นนั้นแก้ได้ ..

ตามเรามาฟังเธอคุย แล้วค่อยตัดสิน ว่านี่คือธุรกิจและภารกิจที่จะไปต่อได้ดีหรือไม่

จากบัณฑิตวารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ทำงานออฟฟิศสายการตลาดอย่างสนุกสนาน จนมาช่วงหนึ่งเกิดอาการเบิร์นเอาท์?

“ธุรกิจดาวน์มาก อยู่ดี ๆ ก็อยากร้องไห้ จอยขับรถไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอสันนิษฐานว่าเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ ออกมาจากห้องตรวจ พบผู้สูงอายุที่มาหาหมอคนเดียว หรือคุณป้าพาคุณตามา ภาพวันนั้นกลายเป็นไอเดียว่าลาออกจากงานดีมั้ย จะช่วยพาผู้สูงอายุไปหาหมอ”


นั่นคือแวบแรกที่คิดถึงการลาออกจากงาน แต่ก็ยังมีสติพอที่จะคิดถึงการทำงานเยียวยาใจตัวเองจากอาการซึมเศร้า?


คงจะจำกันได้ว่า ในช่วงโควิด-19 ระบาด ในโลกโซเชียลมีการเปิดร้านค้า มีตลาดของศิษย์แต่ละสถาบัน หนึ่งในนั้นคือกลุ่มธรรมศาสตร์และการฝากร้าน ที่ชาวเน็ตจะสมัครเข้าไปปรึกษาหารือและขายสินค้า

“ ไปโพสต์ว่าถ้าอีก 2 เดือนจะออกจากงานไปรับจ้างพาผู้สูงอายุไปหาหมอจะดีไหม คือตอนนั้นมันเกิดจากการอยากทำให้ชีวิตมีคุณค่า โพสต์เสร็จก็กินยาคลายเครียด หลับไป ตื่นมาเจอคอมเมนต์มากมายเห็นด้วยอยากใช้บริการ จอยเลยยื่นใบลาออก หนึ่งอาทิตย์ต่อมาไปหาหมอ กลายเป็นคนละคนเลย มันชุ่มชื่นขึ้น งั้นทำละ เอาชื่อไปให้สังคมออนไลน์ช่วยกันโหวต ก็เป็นจอย Ride ค่ะ จอย Ride มีแนวทางจะรับจ้างพาผู้สูงอายุออกจากบ้าน”

“หัวใจสลายค่ะ พ้นสภาพพนักงาน 31 กรกฎา พอ 1 สิงหาล็อคดาวน์เลยค่ะ เอาละสิ คนออกจากบ้านไม่ได้ค่ะ แต่ปรากฏว่าลูกค้าคนแรกโทรมาเลย ร้องไห้ ถามว่านี่เป็นบริการดูแลผู้สูงอายุหรือเปล่าคะ คุณพ่อติดโควิดอยู่โรงพยาบาลสนาม น้องก็ติด คุณแม่อยู่บ้าน ไม่มีใครรับกลับ  จอยก็ตอบว่ารับค่ะ ไปรับให้ ซื้อเสื้อกันฝนเลยค่ะ รับคุณพ่อมาจากโรงพยาบาลสนาม ขึ้นรถ เปิดกระจกหน้าต่างรถ พาถึงบ้าน  งานแรกของจอยจึงเป็นการพาคุณกลับบ้านไปหาคนที่คุณรักและบ้านที่คุณคิดถึงค่ะ ”

เดือนแรกมีกำไรหลักร้อย เดือนที่ 2 เดือนที่ 3 ได้ห้าพันบาท

“ พอสามเดือนเริ่มคิดละว่าสงสัยต้องกลับไปทำงานออฟฟิศ แต่จอยก็ทำต่อมาเรื่อย ๆ ค่ะ  ตอนนี้มีทีมงาน 10 กว่าคน

10 บุคกิ้งต่อวัน จนไม่อาจจะรับมากขึ้นกว่านี้แล้ว  ก็มีคนถามว่าเมื่อไรจะเปิดที่ต่างจังหวัด อย่างเชียงใหม่ก็มีความต้องการ เพราะบางทีคุณพ่อคุณแม่อยู่จังหวัดนึง ลูกหลานอยู่อีกจังหวัด ลำบากเหมือนกันนะคะ ทีมเราจะเรียกว่าแคร์ทีมค่ะ เพราะเราเน้นการดูแลเทคแคร์ค่ะ”

จอย ride ไม่ได้เป็นเพียงรถรับจ้างพาเดินทางเท่านั้น แต่กระบวนการทำงานของลูกรับจ้างหลานจำเป็น ค่อนข้างละเอียดอ่อน?

“บริการของเราเริ่มตั้งแต่วันที่ลูกหลานติดต่อเข้ามา เราจะซักประวัติ อาการ ความต้องการละเอียดมาก ก่อนวันที่จะไปรับก็ต้องโทรหาคุณพ่อคุณแม่ แนะนำตัวให้ท่านคุ้นเคยก่อน หนูชื่อจอยค่ะ พรุ่งนี้จะไปรับนะคะ บ้านประตูสีน้ำเงินใช่ไหมคะ คุณแม่ก็แปลกใจรู้ได้ไง อ๋อ หนูกูเกิ้ลค่ะ แล้วคุยว่าชอบอะไร ฟังเพลงแนวไหน พอไปรับก็เหมือนรู้จักกันแล้ว

ตลอดเวลาลูกหลานจะต้องเห็นสเตตัสว่าออกจากบ้านแล้ว รับบัตรคิว รออยู่ พบหมออยู่นะ ทีแรก ๆ ก็ใช้วิธีส่งข่าวง่าย ๆ ตอนนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จาก สสส. ช่วยพัฒนานวัตกรรม ให้มีการอัพเดตสเตตัสตลอดเวลาประหนึ่งว่าพามาหาหมอเอง   

ไฮไลต์คือทีมงานจะเข้าไปในห้องตรวจด้วย อาการเป็นยังไง ความดันโอเคไหม อ่านค่าไขมัน ปรับยาไหม นัดครั้งต่อไปจะเตรียมตัวยังไงบ้าง เราจะจดทุกอย่างละเอียด เพราะเราเป็นตัวแทนของลูกหลาน ถามประหนึ่งว่าถ้าเราจะกลับไปดูแลต่อที่บ้านเองต้องทำอย่างไร จดส่งลูกหลานรู้ ต้องรู้ประวัติ แนวทางการรักษา พร้อมข้อควรระวัง มีความผิดปกติแบบไหนถึงต้องพากลับมาหาหมอ ลูกหลานจะได้ข้อมูลครบค่ะ บางทีคุณหมอยังงง ว่าซักเยอะจัง

หลังบ้านมีการอัพเดตตลอด ทำงานเป็นทีม เหมือนที่แต่ละครอบครัวบางวันลูกคนนี้พาไป อีกวันลูกคนนั้นพาไป  ก็ต้องส่งต่อข้อมูลกันนั่นละค่ะ”

คุณจอยมีเคล็ดไม่ลับ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

“ เราต้องเข้าใจผู้สูงอายุ เขามีความเสื่อมถอยของร่างกาย หูตา เราต้องเป็นผู้รับฟังที่ดี ผู้สูงอายุอยู่บ้านก็เหงา เพราะลูก ๆ ไปทำงาน เพื่อนบางทีก็ไม่อยู่แล้ว  ดังนั้นวันที่เราไปดูแล เราจะแค่ฟังเยอะ ๆ เวลามีปัญหาเขาจะได้ระบาย บางอย่างไม่กล้าบอกลูกหลานเพราะเกรงใจ เราก็เอาข้อมูลเหล่านี้ไปบอกลูกหลาน”

วันนี้จอยไม่ได้ทำงานเยียวยาใจตัวเองคนเดียว แต่กลายเป็นธุรกิจที่มีทีมงานนับสิบ ซึ่งก็ไม่ได้เปิดรับง่าย ๆ งานที่ทำด้วยหัวใจ ก็ต้องมีการคัดสรรด้วยใจเหมือนกัน

“ จริง ๆ มันยากตั้งแต่ตอนคัดกรอง จอยต้องถามว่าทำไมคุณอยากมาเป็นแคร์ทีม จอยถามว่าคุณมีคุณสมบัติอย่างไร ให้เล่ามา สองต้องตรวจสอบประวัติอาชญากรรม สามทำแบบสอบถามทางจิตวิทยา หลังจากนั้นจะอบรมจิตวิทยา อะไรพูดได้ อะไรไม่ควรพูด แล้วOn the Job Training ( ทดลองงานจริง ) ว่าผ่านไหม จากนั้นเรามีระบบตรวจสอบความพึงพอใจ (จากลูกค้า)”

เราแอบถามอัตราค่าใช้จ่ายในการเรียกใช้บริการ

“ลูกรับจ้างหลานจำเป็น” ก็ทราบว่าไม่ได้สูงเกินไป และเหมาะสมกับการใส่ใจทั้งก่อนและหลัง แน่นอนว่าคำถามหนึ่งคือ เมื่อเอาเวลาไปทำงานไปดูแลพ่อแม่คนอื่น แล้วพ่อแม่ตัวเองล่ะ ดูแลดีแค่ไหน


“ ดูแลพ่อแม่คนอื่นมันชาเลนจ์กว่า ( ท้าทาย เป็นเรื่องเป็นราวกว่า ) เราอาจจะพูดกับพ่อแม่เราแค่ ป๊ากินข้าวยัง แม่กินยัง?  แต่เวลาเราพูดกับลูกค้าจะเสียงสอง คุณพ่อคุณแม่อย่างงั้นอย่างงี้ มันก็ทำให้เราหันกลับมาคิดถึงพ่อแม่เราเหมือนกันค่ะ แต่เราจะบอกกับทีมว่า หน้าที่ของเราไม่ได้มาแทนลูกหลาน แค่แบ่งเบาความกังวลใจเราจะดูแลพ่อแม่คนอื่น แค่เท่าที่เราอยากให้คนอื่นดูแลพ่อแม่ของเราเท่านั้น”

เพราะการทำงานที่เกินความคาดหมาย ก็เคยมีเหตุที่ทำให้เสียใจมาแล้ว

“ เคยมีเดือนเมษาปีที่แล้ว คุณยายอยู่บ้านพักผู้สูงอายุคนเดียวต้องไปฉีดวัคซีน ช่วงนั้นมีข่าวคนแพ้เยอะ วันรุ่งขึ้นเราโทรไปถามอาการว่าคุณยายเป็นยังไง ปรากฏว่าลูกหลานเขาไม่พอใจว่าจะไปตีซี๊ ลูกค้าไม่เข้าใจว่าเราใส่ใจ เราห่วงจริง ๆ

นั่นเป็นครั้งเดียวที่ร้องไห้เสียใจ  แต่ต่อมาเราต้องบอกเลยว่าวันรุ่งขึ้นจะโทรหานะคะ ถ้าไม่รับสายขออนุญาตบุกถึงบ้านนะคะ เราต้องตามงานจริง  ๆ ค่ะ ”

กระโปรงฟุ้งฟู ตุ้มหูใญ๊ใหญ่ แถมที่คาดผมรูปแบบตลก ๆ อย่างวันนี้เป็นขาหมูพะโล้อันโต ทำห้าพคุณจอยเป็นที่ติดตา ซึ่งเป็นความตั้งใจที่จะให้เกิดภาพจำที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุและผู้ที่ได้พบเห็น

“ คุณตาคุณยายก็จะจำ ว่าแม่ตัวกลม ตุ้มหูใหญ่น่ะ  หรือคุณหมอพยาบาลเจอแต่ผู้ป่วย เราเข้าไปในห้อง ก็ได้เป็นอะไรแปลกๆ ให้เขาดู ตอนจ่ายเงิน เภสัชเห็นเขาหัวเราะ แม้แต่แม่บ้านที่ดูแลห้องน้ำก็ชอบจอย

นอกจากการทำงานในแต่ละวัน กับคุณพ่อคุณแม่ของลูกค้าที่จ้างให้จอย Ride ไปรับส่งดูแล คุณจอยยังคิดไปไกลถึงขึ้นสร้างชุมชนคนใส่ใจผู้สูงอายุ ให้ได้มาพูดคุยกัน หรือระหว่างที่ยังไม่เปิดรับทีมงาน ก็สามารถให้ผู้สนใจร่วมงานเข้าไปนั่งในห้องรับแขกของเพจ เพื่อเรียนรู้กันไปพลาง ๆ

เพราะคุณจอยทำงานด้วยใจ

“ จอย Ride ทำธุรกิจช่วยเหลือผู้คน จะเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน อยากให้เพจเป็นที่พึ่งพาพูดคุยกัน ปรึกษากัน

เมื่อก่อนเราบอกว่าลูกกตัญญูคือการป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดอึฉี่ แต่เดี๋ยวนี้มันต่างออกไป บางทีมันก็ไม่ไหวที่จะตื่นตีสามไปรับบัตรคิว จอยไรด์รู้ว่าลูกหลานต้องแบกรับทั้งเศรษฐกิจ ดูแลพ่อแม่ งานการก็ต้องทำ ก็เลยเข้าไปช่วยตรงนี้

จุดเริ่มต้นเราอยากจะเชื่อมโยงครอบครัวกับโรงพยาบาล คนที่มาทำกับเราคือบางคนทำงานสายบริการมาแล้วไม่ได้รับเงินเดือน ก็เลยจัดตั้งเป็น joy ride academy เอาความรู้ให้ไปต่อยอดในการทำงานที่สบายใจ และสองมองถึงโอกาส b2b2 บ้านพักผู้สูงอายุกับโรงพยาบาล รวมทั้งผู้สูงอายุต่างชาติมาอยู่ไทยหลังเกษียณ นี่เป็นโอกาสทางธุรกิจในอนาคตค่ะ

หนูได้รับโทรศัพท์จากคุณยายที่โทรมาร้องไห้ว่าคุณตาเพิ่งเสีย อยากหาคนมาอยู่เป็นเพื่อน จอยเลยคิดว่าจอยไรด์น่าจะมากกว่าพาไปหาหมอ อาจจะช่วยหารายได้ เช่นปล่อยห้องให้นักศึกษาเช่า เพราะสังคมไทยเป็นสังคมพึ่งพา ถ้าผู้สูงอายุมีรายได้จากการให้เช่าห้อง สังคมไทยก็ยังน่าอยู่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ”

จากคนเป็นโรคซึมเศร้าที่รู้ตัวไว คิดได้ไว คุณจอยจึงพบว่า “นอกจากตัวเองกล้าก้าวออกจากคอมฟอร์ด โซน นี่แหละคือคอมฟอร์ดโซนของเรา ทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิต ”

เป็นแค่ลูกรับจ้าง ไปโรงบาล ไปหาหมอฟอกไต กายภาพคีโม จอยไรด์พาไปทุกที่..เย้

จบด้วยเพลงที่คุณจอยร้องปิดรายการ Life Talk ซึ่งหากอยากฟังทั้งหมด ลองเข้าไปใน Channel youtube อีจันค่ะ