จุดเริ่มต้น ทนายเจมส์ จากเด็ก ตจว. สู่อาชีพ ทนายชื่อดัง

แรงบันดาลใจ! จุดเริ่มต้น ทนายเจมส์ จากเด็ก ตจว. สู่อาชีพ ทนายชื่อดัง คู่ขวัญดารา

ความสุขของ “ทนายเจมส์”

คือได้เห็น “รอยยิ้ม ความสุข” ของลูกความที่ได้พ้นทุกข์และไม่ติดคุก

20 ปีบนเส้นทางกฎหมาย เป็นทนายที่โด่งดังว่าความให้เหล่า ดารา และเซเลบ จำนวนมาก เขามีชื่อเสียงเรียงนามว่า นายนิติธร แก้วโต หรือ “ทนายเจมส์” คดีข้อพิพากใดที่กำลังเป็นกระแส และคนไทยให้ความสนใจ ต้องมีทนายเจมส์เข้าไปคลี่คลายคดีให้สงครามคลื่นทะเลยักษ์สึนามิสงบลง ต่างฝ่ายจบคดีแยกทางกันแบบแฮปปี้ แต่เส้นทางการเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ทนายความดาราไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครหลายๆคนคิด

“ไม่ผิดใช่ไหม ชอบทำกิจกรรมมากกว่าการเข้าเรียน?”

ย้อนไปในวัยละอ่อนของทนายเจมส์ เมื่อช่วงตอนเรียน ม.ปลายที่ จ.เพชรบูรณ์ เจ้าตัวเป็นเด็กไม่สนใจการเรียน ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนคบ ด้วยความที่เป็นรองประธานและนักกิจกรรมตัวยงของโรงเรียนจึงเอาเวลาส่วนใหญ่ไปทุ่มเทให้กับการทำกิจกรรมสะมากกว่า หลังจบม.6 ทนายเจมส์ “หลงทาง” ไม่รู้ว่าชีวิตจะเรียนอะไร จึงเลือกเรียนคณะบริหารธุรกิจ

“เสียเวลาชีวิตไปครึ่งปี เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่า”

ทนายเจมส์ขอบคุณตัวเองที่วันนั้น…ที่ลาออกจากคณะบริหารธุรกิจหลังเรียนได้ 1 เทอมเพราะส่วนตัวแล้วเจ้าตัวไม่ชอบบัญชี จึงหักดิบไป “เรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง” ถึงแม้จะเลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ แต่สำคัญตัวผิด เกรดตกคิดว่าตัวเองเรียนเก่ง รุ่นพี่จึงแนะนำว่า

“ มากกว่าท่องจำ คือต้องเข้าใจ มันจะทำให้เราเข้าใจได้ตลอด สุดท้ายผมก็ทำสำเร็จผมเรียนจบภายใน 3 ปี ”

“ไม่คิดไม่ฝัน…. ต้องว่าความให้เหล่าดาราเซเลบ”

ด้วยความบังเอิญแท้ๆ…เจ้าตัวรู้จักกับน้องนักแสดงท่านหนึ่งที่เรียนกฎหมายด้วยกัน มีคดีอะไรเกิดขึ้นทนายเจมส์ต้องไปว่าความให้ตลอด และ หนึ่งในนั้นคืองานจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ของ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ถือว่าเป็นการร่วมงานกับดาราคนแรก

ทนายเจมส์ เล่าให้จันฟังอย่างภาคภูมิใจว่า “ความจริงใจที่มีต่อลูกความ จึงทำให้ดาราบอกต่อกันแบบปากต่อปาก ดาราที่ผมว่าความและเป็นที่ปรึกษาความให้ก็จะมี เอ ศุภชัย ,วุ้นเส้น วิริฒิพา,ไมค์ พิรัชต์ , เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, เก้า เกริกพล เป็นต้น”

พอเหล่าดารามีคดีความ ดาราไม่สามารถตอบคำถามนักข่าวเองได้เพราะมันจะผิดรูปคดี ทนายเจมส์จึงต้องตอบคำถามจากสื่อมวลชนแทน จึงทำให้เจ้าตัวต้องออกสื่ออยู่บ่อยครั้ง

“ชีวิตลูกความอยู่ในกำมือ หากพลาดลูกความติดคุก”

20 ปี บนเส้นทางของการว่าความของทนายเจมส์หากต้องว่าความคดีอาญา เจ้าตัวจะว่าความพลาดไม่ได้ หากพลาดลูกความต้องติดคุกทันที ความสุขหลังจากการว่าความชนะคือได้เห็น “รอยยิ้ม ความสุข การพ้นทุกข์และไม่ต้องติดคุก ของลูกความ”

“ร่างกายพัง เพราะทำงานหนักเป็นสาเหตุ”

ช่วงนี้งานหนักมาก 1 วันเดินทางไปหาลูกความไม่ต่ำกว่า 5 ที่ ร่างกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ทนายเจมส์เล่าให้จันฟังต่อว่า “ณ.วันนั้น ภรรยาจึงซื้อของบำรุงร่างกายมาให้เยอะมาก หนึ่งในนั้นมีโสมพลัส พอผมกินหมดขวดรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่ามีแรงขึ้นมา หลังจากนั้นผมซื้อโสมพลัสติดบ้าน ติดออฟฟิศ ที่สำคัญกินง่ายด้วยนะ เพราะมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง ดื่มทุกวันช่วยให้ผมว่าความในศาลได้อย่างคร่องแค้ว เพราะ 1 ขวด มีวิตามิน เอ และวิตามิน บี 12 สูง บำรุงสายตา และสมอง ช่วยทำให้ผมจำข้อกฎหมายได้ตรงเป๊ะทุกข้อ”

ทนายเจมส์ฝากทิ้งท้ายไว้ให้ได้คิด ความภูมิใจในสายงานที่ตนทำว่า “อาชีพทนายความ สามารถช่วยคนอื่นได้ ซึ่งทำให้ลูกความหลุดพ้นจากทุกข์และไม่ติดคุก ที่สำคัญหากเรารู้กฎหมาย จะไม่มีใครกล้าใช้กฎหมายรังแกเรา”

ส่วนลูกเพจอีจันคนไหนอยากเป็นทนายความ มีทนายเจมส์เป็นไอดอลในการว่าความให้ลูกความก็เอาขบวนการความคิดของทนายเจมส์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงก็ได้นะคะ